ความหวังของประชาชาติ...อาณาจักรแห่งสันติสุข

“ความหวังของประชาชาติ...อาณาจักรแห่งสันติสุข”

คริสตจักรไคร้สตเชิช กรุงเทพ / แองลิกัน ลาดกระบัง

วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม 2022

อิสยาห์ 11:1-10, มัทธิว 3:1-12

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

Word Count 4,495 ; Time 40 minutes (110 คำต่อนาที)

[Slide# 1]

พระเจ้าสถิตกับท่าน [และสถิตกับท่านด้วย]

พี่น้องที่รักในพระคริสต์ครับ ก็ถือโอกาสนี้ Merry Christmas สุขสันต์วันคริสตมาส ล่วงหน้า ขอสันติสุขในเทศกาลคริสตมาสที่จะมาถึงนี้อยู่กับพี่น้องและสมาชิกทุกคนในครอบครัวครับ ถ้าไม่มีโอกาสได้พบกันในวันอาทิตย์คริสตมาส

เทศกาลคริสตมาส เป็นช่วงเวลาแห่งความหวัง ความเชื่อ สันติสุข ความชื่นชมยินดี แม้ว่า ชีวิตของเราจะมีทั้งสุขและทุกข์ ขอบคุณพระเจ้าครับ ที่พระเจ้าประทานพระคริสต์ให้กับเราในเทศกาลคริสตมาสที่จะมาถึงนี้

เราอยู่ในเทศกาลเตรียมรับเสด็จ เทียนที่จุดในวันอาทิตย์ที่สองนี้ มีสองเล่มด้วยกันครับ เรียกว่าเป็นเทียนแห่ง ความหวัง ความหวังที่พบในการเสด็จมาของพระคริสต์ พระสัญญาพระเจ้า และ เทียนแห่งความเชื่อ ความเชื่อตามพระสัญญานั้นจะเป็นจริง เตรียมชีวิต ความคิด และจิตใจเราสำหรับเทศกาลคริสตมาส ต้อนรับการเสด็จมาของพระเยซูคริสต์ นอกจากที่พระองค์เสด็จมาแล้ว เมื่อสองพันกว่าปีที่แล้ว และ รอคอยการเสด็จมาครั้งที่สองในอนาคต เรายังรับการเสด็จมาของพระเยซูคริสต์ เข้ามาในชีวิตของเรา เสด็จเข้ามาในใจของเราที่เป็นผู้เชื่อ

ให้เราร่วมใจ ก้มศีรษะหลับตา อธิษฐานเพื่อรับพระคำพระเจ้าด้วยกันครับ ในเช้า / บ่ายวันนี้

“พระเจ้าผู้ทรงพระคุณ โปรดประทานหัวใจที่ถ่อม ยินดีรับการสอน และใจที่เชื่อฟัง ในขณะที่ลูกรับการเปิดเผยและสำแดงจากพระคำของพระองค์โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ขอทรงประทานกำลังที่ลูกจะสามารถกระทำตามสิ่งที่พระองค์ทรงเปิดเผยและสำแดง ให้เป็นจริงในชีวิตของลูก ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน”

เช้า / บ่ายวันนี้ เป็นคำพยากรณ์ของอิสยาห์ ผู้เผยพระวจนะพระเจ้า อิสยาห์พยากรณ์

เริ่มตั้งแต่ใน อิสยาห์ 9 พยากรณ์การเสด็จมาของกษัตริย์พระเมสสิยาห์

6ด้วยมีเด็กคนหนึ่งเกิดมาเพื่อเรา มีบุตรชายคนหนึ่งประทานมาให้เรา

และการปกครองจะอยู่บนบ่าของท่าน และเขาจะขนานนามของท่านว่า

“ที่ปรึกษามหัศจรรย์ พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ พระบิดานิรันดร์ และองค์สันติราช”

สำหรับเราที่เป็นผู้เชื่อ พระคัมภีร์ได้เปิดเผยว่า กษัตริย์พระเมสสิยาห์ ตามคำพยากรณ์ของอิสยาห์คือ พระเยซูคริสต์ พูดถึงการเสด็จมาของพระคริสต์ในเทศกาลคริสตมาส ก่อนล่วงหน้า 700 ปี

บทที่ 11 อิสยาห์พยากรณ์ ถึงการเสด็จมาของอาณาจักรแห่งสันติสุขและสันติภาพ ภายใต้การปกครองของกษัตริย์พระเมสสิยาห์ ที่จะมาจากเชื้อสายของกษัตริย์ดาวิด

[Slide# 2]

Edward Hicks เป็นทั้งศิลปินวาดภาพ และในขณะเดียวกันก็เป็น นักเทศน์ ด้วย ภาพวาดนี้ เขาตั้งชื่อว่า อาณาจักรแห่งสันติสุข ได้รับแรงบันดาลใจจาก อิสยาห์ 11 ความจริงเขาวาดภาพแบบนี้ ตลอดชีวิตของเขา ทั้งหมด 60-100 ภาพ ปัจจุบันหลงเหลืออยู่ประมาณ 60 ภาพ และหนึ่งในภาพที่เขาวาด มีมูลค่าจากการประมูลกว่า 10 ล้านดอลล่าร์ จากการประมูลเมื่อหลายปีที่แล้ว

ผมอยากจะหนุนใจพี่น้องคนไทย ที่มีของประทานในการวาดภาพนะครับ ให้ลองวาดภาพจากข้อความในพระคัมภีร์นะครับ อยากให้เรามีภาพงานศิลปะที่สะท้อนจากพระวจนะคำของพระเจ้าในบริบทของสังคมไทยนะครับ เหมือนที่ Hicks เค้าวาดเอาไว้สะท้อนบริบทของสังคมอเมริกันเมื่อกว่า สองร้อยกว่าปีที่แล้ว

ในภาพเราเห็นอะไรบ้างครับ พี่น้อง.... ภาพเด็กน้อยกำลังลูบหน้าของสัตวป่า คล้ายๆกับเสือใช่มั้ยครับ

ภาพเด็กด้านบน เอามือกอดคอกับเสือ และสิงโต

ภาพของแกะ แพะ อยู่อย่างสงบสุขกับนักล่า อย่างสิงโต หมาป่า

เห็นกลุ่มอินเดียนแดง กับ คนขาว ข้างๆรูปลึกไปด้านหลังมั้ยครับ

ภาพของการร่วมโต๊ะเจรจาสันติภาพ การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ

การอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขระหว่าง นักล่ากับ สัตว์ป่าที่ควรจะเป็นเหยื่อของมัน รวมทั้งเด็กเล็กๆด้วยนะครับ

เขาอยู่ร่วมกันโดยปราศจากความกลัว

อิสยาห์ 11 เป็นภาพวิชชั่น นิมิตถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ภาพในจินตนาการของ Hicks พระเจ้าสัญญาว่าจะเกิดขึ้น และเป็นความหวังสำหรับ Hicks และสำหรับ ผู้เชื่อด้วยเช่นกัน ในวันนี้ มีอยู่สามประการครับ

[Slide# 3]

“ความหวังของประชาชาติ...อาณาจักรแห่งสันติสุข”

ความหวัง สามประการ “อยู่” ใน“อาณาจักรแห่งสันติสุข”

“ผู้เชื่อที่ อยู่เป็น คือ ผู้เชื่อที่อยู่อย่างมีความหวัง” ประกอบไปด้วย สามอยู่

(1) “อยู่” ภายใต้การปกครองของพระคริสต์ (1-2)

[Slide# 4-5]

“1จะมีหน่อหนึ่งแตกออกจากตอของเจสซี

และกิ่งหนึ่งที่งอกจากรากของเขานั้นจะเกิดผล

2และพระวิญญาณของพระยาห์เวห์จะทรงอยู่บนท่าน

คือพระวิญญาณแห่งปัญญาและความเข้าใจ

พระวิญญาณแห่งคำปรึกษาและอานุภาพ

พระวิญญาณแห่งความรู้และความยำเกรงพระยาห์เวห์”

พระเมสสิยาห์ พระผู้ไถ่ตามคำพยากรณ์ ต้องมาจาก ตอของเจสซี เจสซีคือ พ่อของกษัตริย์ดาวิด

ตอไม้เป็นภาพของ การพิพากษา การโค่นลง อาณาจักรยูดาห์ถูกต้องจบสิ้นลง เมื่อถูกบาบิโลนเข้ายึดครอง สายการปกครองของกษัตริย์จากพงศ์พันธ์ของกษัตริย์ดาวิดถูกตัดขาดลง เพราะความบาปของเขา ที่หันออกจากทางพระเจ้า และทำความชั่วร้ายในสายพระเนตรของพระเจ้าโดยที่ไม่ยอมกลับใจ แม้พระเจ้าจะส่งผู้แทนพระองค์ ผู้เผยพระวจนะคนแล้วคนเล่า มาเตือน

แต่ ตอไม้ ที่ดูเหมือนตายแล้วนี้ จะมีหน่อ หนึ่งออกมา กลับมามีชีวิต คำพยากรณ์นี้สำเร็จ 700 ปีต่อมา ในพระเยซูคริสต์ ที่สืบเชื้อสายจากกษัตริย์ดาวิด ผ่านทางโยเซฟ

กิ่งหนึ่งจะงอกมาจากราก นอกจากหน่อ ออกมาจากตอ แล้ว มีกิ่งหนึ่งงอกมาจากราก ราก ภาษาเดิมให้ความหมายของ ต้นกำเนิด แหล่งกำเนิด พระเยซูนอกจากมารับสภาพมนุษย์ เป็นพงศ์พันธ์ที่สืบเชื้อสายมาจากดาวิด คือจากตอไม้แล้ว อีกภาพหนึ่งคือ พระเยซูคริสต์คือ รากด้วย คือแหล่งกำเนิดของมนุษย์ พระเยซูคือพระเจ้าด้วย ในเวลาเดียวกัน

กษัตริย์พระเมสสิยาห์นี้ จะประกอบด้วยพระวิญญาณจากพระเจ้า ในที่นี่ มี 7 ประการด้วยกันครับ ภาพของความครบบริบูรณ์ เลข 7

พระวิญญาณ 7 ประการ (1) พระวิญญาณของพระยาห์เวห์ (2) พระวิญญาณแห่งปัญญา (3) ความเข้าใจ (4) คำปรึกษา (5) อานุภาพ (6) ความรู้ และ (7) ความยำเกรงพระยาห์เวห์

มาระโก 1:10, โรม 15:12, วิวรณ์ 5:5; 22:16

[Slide# 6]

“12และอิสยาห์กล่าวอีกว่า

“รากแห่งเจสซีจะมา

คือผู้ที่จะทรงลุกขึ้นมาครอบครองบรรดาประชาชาติ

ประชาชาติทั้งหลายจะมีความหวังในพระองค์”

พี่น้องที่รักครับ เงื่อนไข ประการแรก ของการอยู่อย่างมีความหวัง ของผู้เชื่อ ไม่ใช่ อยู่อย่างหมดหวัง คือ

ชีวิตที่ อยู่ภายใต้การปกครองของพระคริสต์ เพราะเรามีความหวังในพระองค์

[Slide# 7]

(2) “อยู่” ภายใต้การปกครองด้วยความยุติธรรมและความชอบธรรม (3ข-5)

[Slide# 8-9]

“3...ท่านจะไม่พิพากษาตามสิ่งที่ตาท่านได้เห็น หรือตัดสินตามสิ่งที่หูท่านได้ยิน

4แต่ท่านจะพิพากษาคนจนด้วยความชอบธรรม และตัดสินให้กับคนต่ำต้อยของแผ่นดินด้วยความเที่ยงธรรม ท่านจะตีแผ่นดินโลกด้วยตะบองจากปากของท่าน และท่านจะประหารคนอธรรมด้วยลมจากริมฝีปากท่าน 5ความชอบธรรมจะเป็นสายคาดเอวของท่าน และความซื่อสัตย์จะเป็นผ้าคาดที่บั้นเอวของท่าน”

พี่น้องครับ ภายใต้การปกครองของพระคริสต์ ความยุติธรรมและความจริงจะปรากฏ คนยากจน และคนต่ำต้อยในสังคมจะได้รับความเป็นธรรม

“3...ท่านจะไม่พิพากษาตามสิ่งที่ตาท่านได้เห็น หรือตัดสินตามสิ่งที่หูท่านได้ยิน

4แต่ท่านจะพิพากษาคนจนด้วยความชอบธรรม และตัดสินให้กับคนต่ำต้อยของแผ่นดินด้วยความเที่ยงธรรม

[Slide# 10]

พี่น้องเคยเห็นสัญลักษณ์ของความยุติธรรมมั้ยครับ เป็นรูปผู้หญิงที่มีผ้าปิดตาของตัวเองไว้ ในขณะที่ถึงมาตรวัดอยู่ที่มือ และมืออีกข้างหนึ่งถือดาบ มั้ยครับ

เทพีแห่งความยุติธรรม ของคนโรมัน นิสิต นักศึกษาเกี่ยวกับกฎหมายน่าจะทราบดี

ตาชั่งในมือซ้าย แสดงถึงความเป็นธรรมและเที่ยงธรรม ในการใช้กฎหมาย เหมือนตาชั่งที่บอกว่าสิ่งใดหนักเบากว่ากันได้อย่างซื่อตรงเสมอ เปรียบกับตอนชั่งน้ำหนักของหลักฐานและพิจารณาสิ่งนั้นอย่างตรงไปตรงมา ดาบในมือขวา แสดงถึงอำนาจของการบังคับใช้กฎหมาย โดยดาบนั้นไม่ได้อยู่ในฝัก เพื่อแสดงให้เห็นถึงความโปร่งใส และยังเป็นดาบสองคม ที่ไม่ใช่คำเปรียบเปรย แต่เป็นดาบที่มีความคมทั้งสองด้านจริงๆ แสดงถึงการใช้อำนาจลงโทษผู้กระทำผิดและปกป้องผู้บริสุทธิ์ในดาบเล่มนี้ และนอกจากนั้น ที่ดาบต้องอยู่ต่ำกว่าตาชั่ง เพื่อแสดงให้เห็นว่าการลงโทษจะอยู่หลังจากการพิจารณาของตาชั่งเสมอ ผ้าปิดตา แสดงถึงความเป็นธรรมที่จะไม่ปล่อยให้ปัจจัยภายนอก อย่าง ความมั่งคั่ง ชื่อเสียง อิทธิพล มามีส่วนหรือมาชี้นำการตัดสิน ยืนหยัดอยู่บนหนังสือ และเท้าข้างหนึ่งอยู่เหนืองูพิษ เป็นรายละเอียดที่หลายคนอาจมองข้ามไป จนคุ้นเคยแค่กันตาชั่ง ผ้าปิดตา และดาบ ในร่างกายส่วนบน แต่ด้านล่างนั้นมีหนังสือที่เธอหยัดยืนอยู่บนนั้น แสดงถึงความยึดมั่นอยู่บนรัฐธรรมนูญที่เป็นรากของกระบวนการยุติธรรม และเท้าที่อยู่เหนืองูนั้น แสดงถึง การต่อต้านต่อสิ่งชั่วร้าย

อาจารย์ผมที่สอนที่วิทยาลับพระคริสตธรรมท่านหนึ่ง ท่านมีพื้นฐานเป็นนักกฎหมายมาก่อน ก่อนที่จะถวายตัวมารับใช้พระเจ้าเต็มเวลา และเรียนจนจบปริญญาเอกด้านพันธสัญญาเดิม เชี่ยวชาญภาษาฮีบรูมาก บอกกับนักศึกษาว่า ทุกครั้งที่เธอต้องตรวจข้อสอบให้คะแนน ข้อสอบของนักศึกษาจะเป็น การเขียน Paper นะคตรับ เขียนรายงาน เธอจะให้ผู้ช่วยของอาจารย์ เอาชื่อนักศึกษาออกจากหน้าแรกของ Paper เพื่อที่อาจารย์จะสามารถให้คะแนน Paper นั้นอย่างยุติธรรม อาจารย์บอกว่า เพื่อป้องกันอคติในการให้คะแนน เพราะอาจจะมีนักศึกษาบางคนที่อาจารย์โปรดปรานเป็นพิเศษ หรือบางคนที่อาจารย์อาจจะไม่ค่อยโอเคร

ท่านจะตีแผ่นดินโลกด้วยตะบองจากปากของท่าน และท่านจะประหารคนอธรรมด้วยลมจากริมฝีปากท่าน 5ความชอบธรรมจะเป็นสายคาดเอวของท่าน และความซื่อสัตย์จะเป็นผ้าคาดที่บั้นเอวของท่าน

และจะทรงจัดการกับคนอธรรมด้วยลมจากริมฝีปากท่าน ด้วยพระวจนะคำจากปากของพระองค์

2 เธสะโลนิกา 2:8

“8ขณะนั้นคนนอกกฎหมายก็จะปรากฏตัวขึ้น และพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงประหารมันด้วยลมพระโอษฐ์ของพระองค์ และจะทรงผลาญให้สูญไปด้วยการเสด็จมาอันรุ่งโรจน์ของพระองค์”

[Slide# 11]

(3) “อยู่” ภายใต้ความเป็นเอกภาพ (6-9)

[Slide# 12-13]

“6สุนัขป่าจะอยู่กับลูกแกะ และเสือดาวจะนอนอยู่กับลูกแพะ ลูกโคกับสิงโตหนุ่มจะหากินอยู่ด้วยกัน และเด็กเล็กๆ จะนำพวกมันไป 7แม่โคกับหมีจะหากินด้วยกัน ลูกๆ ของมันก็จะนอนอยู่ด้วยกัน และสิงโตจะกินฟางเหมือนวัวผู้ 8และทารกที่กินนมจะเล่นอยู่ที่ปากรูของงูเห่า และเด็กที่หย่านมจะเอามือวางบนรังของงูทับทาง 9จะไม่มีการทำให้เจ็บปวดหรือการทำลายทั่วภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเรา เพราะว่าแผ่นดินโลกจะเต็มด้วยความรู้ในเรื่องของพระยาห์เวห์เหมือนน้ำปกคลุมทะเลอยู่นั้น”

[Slide# 14]

ภาพวาดของ Hicks เกิดจากแรงบันดาลใจในข้อที่ 6-9 เป็นภาพของสันติสุขที่แท้จริง การอยู่ร่วมกันของบรรดาสัตว์ต่างๆภายใต้ความเป็นเอกภาพ ที่สะท้อนให้เห็นภาพจากสวนเอเดน ที่บรรดาสรรพสัตว์ต่างอยู่ร่วมกันอย่างสันติ มีความเป็นเอกภาพ ก่อนที่ความบาปจะเข้าในโลก พระเมสสิยาห์ พระเยซูคริสต์จะทรงนำมาซึ่ง การรื้อฟื้นอย่างสมบูรณ์ ปฎิบูรณาการ และ การคืนดี อาณาจักรแห่งสันติสุขได้มาถึงแล้ว ในการเสด็จมาของพระเยซูคริสต์

อาณาจักรแห่งสันติสุขที่แท้จริงจะเกิดขึ้นได้ ต้องมีความเป็นเอกภาพของสัตว์ต่างๆ และมนุษย์ ที่ครั้งหนึ่งเคยอยู่ในบทบาทที่แตกต่างกัน นักล่า และ เหยื่อ ต้องมีการรื้อฟื้นและการคืนดี สิ่งแวดล้อม อาหารพืชธัญญาหารที่มีอยู่อย่างมากมาย และนี่คือ ข่าวประเสริฐ ข่าวดีที่พระเยซูทรงนำมาให้กับเราในคริสตมาส การเสด็จมารับสภาพมนุษย์ในคริสตมาส เพื่อสถาปนาอาณาจักรแห่งสันติสุขบนโลกนี้

โฮเชยา 2:18,

“18ในเวลานั้น เราจะทำพันธสัญญากับสัตว์ในป่า กับนกบนฟ้าและสัตว์เลื้อยคลานบนแผ่นดินเพื่อพวกเขา เราจะทำลายคันธนู ดาบและสงครามจากแผ่นดิน และเราจะทำให้เขานอนลงอย่างปลอดภัย”

อาณาจักรแห่งสันติสุขนี้ มาแล้ว แต่ยังไม่ครบบริบูรณ์ อาณาจักรแห่งสันติสุข ผ่านการรื้อฟื้น ปฎิบูรณาการ และการคืนดี จะเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์ เมื่อพระเยซู เสด็จกลับมาอีกครั้งในครั้งที่สอง ที่เราต่างรอคอยการเสด็จมาครั้งที่สองของพระองค์ เพื่อปกครองโลกนี้อย่างสมบูรณ์

วิวรณ์ 7: 9-10

“9หลังจากนั้นมา ข้าพเจ้าเห็น และนี่แน่ะ มหาชนที่ไม่มีใครนับจำนวนได้ ที่มาจากทุกประชาชาติ ทุกเผ่า ทุกชนชาติและทุกภาษา ยืนอยู่หน้าพระที่นั่งและเฉพาะพระพักตร์พระเมษโปดก พวกเขาสวมเสื้อผ้าสีขาว และถือใบตาลอยู่ในมือ 10พวกเขาร้องเสียงดังว่า “ความรอดขึ้นอยู่กับพระเจ้าของเราผู้ประทับบนพระที่นั่งและ ขึ้นอยู่กับพระเมษโปดก”

“10ในวันนั้น รากของเจสซี จะตั้งขึ้นเป็นสัญญาณแก่ชนชาติทั้งหลาย และท่านจะเป็นที่แสวงหาของบรรดาประชาชาติ และที่พำนักของท่านจะรุ่งโรจน์”

ด้วยข่าวดีนี้เอง จึงเป็นความหวัง เป็นหน่อที่เติบโตออกจากตอไม้ ของเจสซี ผู้ซึ่งแป็นคนธรรมดาๆ คุณพ่อของกษัตริย์ดาวิด พระเมสสิยาห์ที่สืบเชื้อสายจากกษัตริย์ดาวิด ตามพระสัญญา พระเยซูคริสต์ผู้กำเนิดมาในครอบครัวคนธรรมดาสามัญ ไม่มีความสำคัญใดๆ เหมือนอย่างเจสซี ที่ให้กำเนิด กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของอิสราเอลคือ กษัตริย์ดาวิด

[Slide# 15]

“ความหวังของประชาชาติ...อาณาจักรแห่งสันติสุข”

ความหวัง สามประการ “อยู่” ใน“อาณาจักรแห่งสันติสุข”

“ผู้เชื่อที่ อยู่เป็น คือ ผู้เชื่อที่อยู่อย่างมีความหวัง”

“อยู่” ภายใต้การปกครองของพระคริสต์

“อยู่” ภายใต้ความยุติธรรมและชอบธรรม

“อยู่” ภายใต้ความเป็นเอกภาพ

พี่น้องอยากอยู่ในสังคมแบบนี้มั้ยครับ เหมือนในภาพวาดของ Hicks เราสามารถอยู่ร่วมกันได้ โดยปราศจากความกลัว กลัวว่า อีกคนจะทำร้ายเรา กลัวว่า เสือจะมากินเรา ต่างฝ่ายต่างนอนอยู่บนพื้นดินเดียวกันได้ อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข สิงโตจะกินฟางหญ้าเหมือนโค

แผ่นดินโลกจะเต็มด้วยความรู้ในเรื่องของพระยาห์เวห์เหมือนน้ำปกคลุมทะเลอยู่นั้น

แผ่นดิน อาณาจักร สังคม ที่ข่าวประเสริฐของพระคริสต์อยู่ทั่วแผ่นดินโลก ความรู้ความเข้าใจในพระเจ้า มากมาย ดุจ น้ำที่ปกคลุมทะเล

พี่น้องครับ ชีวิตของ Edward Hicks ไม่ได้เติบโตมาแบบ ภาพที่เขาวาด นะครับ เขาเติบโตมาในช่วงที่มีความขัดแย้งรุนแรงของสงคราม ระหว่างความคิดต่างทางการเมืองการปกครอง ระหว่าง Loyalist กลุ่มที่ภักดีต่ออังกฤษ ต่อราชวงศ์ และ กลุ่มเสรีปลดปล่อยอเมริกาจากอาณานิคมของอังกฤษ จากราชวงศ์ สงครามประกาศอิสรภาพในช่วงปี 1775-1783 แปดปีของสงคราม

พ่อของเค้าที่เป็น แองลิกัน ที่เป็น Loyalist เป็นฝ่ายพ่ายแพ้สงคราม หมดตัว ถูกยึดทรัพย์สิน จนหมด เขาเองตั้งแต่อายุไม่ถึงสามขวบต้องให้เพื่อนแม่ ช่วยเลี้ยงดู ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ของเค้า

สังคมที่อยู่คือ ความขัดแย้ง ความรุนแรง จับอาวุธประหัตประหารกัน ระหว่างคนท้องถิ่น อินเดียนแดง กับคนขาว ที่เข้ามายึดที่ดินของคนท้องถิ่น

พี่น้อง Hicks ที่เติบโตมาจนเป็นผู้รับใช้พระเจ้าและศิลปิน เค้าวาดรูปนี้ได้อย่างไร ครับ ในบริบทชีวิตของเค้า

ตัวเราเอง ในขณะที่พระคัมภีร์ ให้ความหวังกับเรา ในอาณาจักรแห่งสันติสุข

วันนี้สังคมรอบตัวเราเป็นอย่างไรบ้างครับ เราเห็น สงครามระหว่าง รัสเซีย และยูเครน ผู้คนเข่นฆ่ากัน แม้มีความเชื่อเดียวกัน ดูเหมือนพระเยซูคริสต์ไม่ได้มีอิทธิพลอะไรเลยกับบรรดาผู้นำเหล่านั้น บริบทการเมือง อำนาจ และผลประโยชน์ ปิดบังตาของบรรดาผู้นำเหล่านั้นหมด

เราพึ่งผ่านเหตุการณ์การกราดยิงเด็กเล็กในประเทศไทย ผ่านไปไม่กี่เดือนมานี้เอง บางคนอาจจะหลงลืมไปแล้ว วันอังคารนี้ก็จะครบสองเดือนแล้ว ขุดลงไปปัญหาความรุนแรง คือ อาวุธปืน ยาเสพติด สุขภาพจิตของคนในสังคมที่กำลังป่วย พี่น้องรู้มั้ยครับ เราอยู่ในสังคมที่ป่วยอยู่

“ผู้เชื่อที่ อยู่เป็น คือ ผู้เชื่อที่อยู่อย่างมีความหวัง”

ความหวังนี้ อยุ่ในพระคริสต์ ในพระสัญญาของพระเจ้าครับ

พี่น้องที่รักครับ ความจริงเรากำลังอาศัยอยู่ในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ พระคัมภีร์บอกว่า เรากำลังอยู่ในยุคสุดท้าย วาระสุดท้ายแล้วครับ

[Slide# 16]

ตัวของ อิสยาห์ เองก็อาศัยอยู่ในช่วงเวลาที่ไม่แตกต่างจาก Hicks หรือของเรา เอง

อาณาจักรยูดาห์กำลังระส่ำระสาย ขาดความมั่นคง สังคมก็ป่วย หันจากนมัสการพระยาห์เวห์ ทำความผิดบาปมากมาย สังคมเต็มไปด้วยความอยุติธรรม ไม่แตกต่างจากเราในทุกวันนี้ครับ

แต่ พระคำพระเจ้า คำพยากรณ์มาถึงอิสยาห์ในเวลาอย่างนี้แหละครับ พระเจ้าผู้ทรงประทาน ความหวัง ตามพระสัญญาให้กับเรา

พี่น้องที่รักครับ เรากำลังอาศัยอยู่ในช่วงเวลา ระหว่าง การเสด็จมาแล้วของพระเมสิสิยาห์ พระคริสต์ ในคริสตมาสแรก เมื่อสองพันกว่าปีที่แล้ว และ รอคอย การเสด็จกลับมาครั้งที่สอง ของพระเยซูคริสต์ Advent ครั้งที่สอง ครับ เรากำลังอยู่ในเทศกาลเตรียมรับเสด็จ ครับ คริสตมาสนี้ ให้เตือนใจเรา ครับ

ระหว่างที่เราอยู่ในช่วงเวลานี้ พระเยซูสอนสาวกของพระองค์ให้อธิษฐานว่า อย่างไรครับ เดี๋ยวพวกเราก็จะอธิษฐานในพิธีมหาสนิทในวันนี้ “ขอให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่ ในสวรรค์เป็นอย่างไรก็ขอให้เป็นอย่างนั้นในแผ่นดินโลก”

พี่น้องครับ คริสตมาสที่พระเยซูเสด็จมา พระคัมภีร์บอกว่า เป็น หน่อที่งอกออกมาจากตอไม้ เป็นกิ่งที่งอกออกมาจากราก

หน่อเล็กๆ กิ่งเล็กๆ ที่งอกออกมาจาก ความสิ้นหวัง จากสถานการณ์ในโลกที่เรากำลังอยู่ ภายใต้ความบาป คำแช่งสาป และการพิพากษา โลกของปฐมกาล บทที่ 3 เมื่อมนุษย์ล้มลงในความบาป

แผ่นดินของพระเจ้า ที่เป็นหน่อเล็กๆ กิ่งเล็กๆนี้ ดูเหมือนไม่สำคัญ เล็กน้อยนี้ ไม่สามารถมีอิทธิพลใดๆได้เลยกับสังคมที่อยู่ กำลังจำเริญเติบโตขึ้นอยู่ภายในเราทุกคนครับ ที่เป็นผู้เชื่อ

ผู้เชื่อ ที่ดำเนินชีวิตด้วยความหวัง ผู้เชื่อที่อยู่เป็น ในสังคมแบบนี้ คือ อยู่ภายใต้การปกครองของพระคริสต์ อยู่ภายใต้ความยุติธรรมความชอบธรรม และอยู่ภายใต้ความเป็นเอกภาพ ที่พบในพระคริสต์ ในพระคริสต์ ไม่มีความแตกต่างใดๆ แยกเราออกจากันได้ครับ พี่น้องที่รัก

ชีวิตของเราแต่ละคน กำลังเป็นเหมือนกับ หน่อเล็กๆ กิ่งเล็กๆครับ ที่ออกมาจากตอไม้

[Slide# 17]

ในหนังสือคริสตมาสแห่งความหวัง ในปีนี้

“อย่าถ่วงความหวังด้วยก้อนหิน” โดยเพื่อนผู้รับใช้ที่อยู่ในเครือข่าย ศิษยาภิบาล คริสตจักรสาธร เพื่อนบ้านใกล้ๆเรา อาจารย์วิทยา ตอนหนึ่งในหนังสือท่านเขียนไว้ว่า

“ถ้าพระเจ้ามีจริง ทำไมเราจึงมองไม่เห็นแสงแห่งความหวังนั้นเลย ถ้าเราเปรียบความหวังเหมือนบอลลูนที่ลอยขึ้นไปบนฟ้า เราคงอยากให้บอลลูนนี้ลอยขึ้นไปสูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ที่ไม่เป็นอย่างนั้นอาจเพราะเรามองไม่เห็นว่าเราได้ผูก “ก้อนหิน” ถ่วงไว้ที่บอลลูนแห่งความหวัง”

พี่น้องที่รักครับ ถ้าความหวังที่เรากำลังพูดถึงใน อิสยาห์ 11 คือ บอลลูน ที่กำลังลอยทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ด้วยแรงโน้มถ่วง ความบาปที่ไม่สามารถฉุดรั้ง บอลลูนแห่งความหวัง นี้ได้ เรากลับ กำลังถ่วง บอลลูนใบนี้ด้วยก้อนหินครับ ก้อนหินของความกลัว การกล่าวโทษ ความซึมเศร้า ก้อนหินแห่งความไม่ให้อภัย ก้อนหินแห่งความขมขื่น มีก้อนหินอะไรมั้ยครับ ในชีวิตของเรา ที่กำลังถ่วง บอลลูนแห่งความหวังในชีวิตของเราอยู่ ทำให้เราไม่สามารถ อยู่เป็น ได้ ในสังคมรอบตัวเรา

ก้อนหินอะไรครับ ที่ถ่วงเราไว้ ไม่ยอมให้ พระคริสต์เข้ามาครอบครองใจเราแท้จริง อาจจะเป็นความกลัว ความวิตกกังวล กลัวอนาคตที่ไม่แน่นอน กลัวว่าพระเจ้าจะไม่เลี้ยงดูเรา และครอบครัว

ก้อนหินอะไรมั้ยครับ ที่ถ่วงเราไว้ ไม่ให้เราสามารถมีอยู่อย่างเป็นเอกภาพได้

ให้เราปลด ก้อนหินที่ถ่วงอยู่ครับ เพื่อที่บอลลูนแห่งความหวังของเราสามารถลอยขึ้นไป พร้อมๆกัน ครับ อาเมนนะครับ ขอบคุณพระเจ้า

[Slide# 18]

พี่น้องที่รักครับ เราเลือกได้ครับ ว่าเราจะอยู่อย่างตอไม้ หรือ อยู่อย่างมีความหวังในพระคริสต์ ให้เราร่วมใจกันอธิษฐาน

พระบิดาผู้ทรงสถิตในสวรรค์ ขอบคุณพระองค์ที่ทรงประทานพระเยซูคริสต์

ให้กับเราในเทศกาลคริสตมาสที่กำลังจะมาถึงนี้ ในเทศกาลเตรียมรับเสด็จนี้

ขอบคุณพระเจ้า

ที่ในช่วงเวลาที่มืดมิดในชีวิต พระคริสต์ทรงเสด็จเข้ามาด้วยความสว่าง

ในช่วงเวลาที่อยู่โดดเดี่ยวลำพัง พระคริสต์เสด็จเข้ามาและดำเนินอยู่กับลูก

ในช่วงเวลาแห่งความสูญเสีย พระคริสต์เสด็จเข้ามาร่วมแบ่งปันความเจ็บปวดร่วมกับลูก

ในช่วงเวลาที่ว่างเปล่า พระคริสต์เสด็จมาเติมเต็มชีวิตของลูก

ในช่วงเวลาที่ชีวิตแตกสลาย พระคริสต์เสด็จมาประคับประคองลูกไว้

ในช่วงเวลาทั้งสุขใจยินดีและทุกข์ใจยากลำบาก ในยามที่ลูกมีความเชื่อและในยามที่สงสัย พระคริสต์เสด็จมาเพื่อลูกและทุกๆคนที่นี่

ไม่ว่าลูกจะเป็นอย่างไร ขอพระคำในเช้า / บ่ายวันนี้ จะสำแดงความจริงของพระองค์ และเปิดใจของลูก ต้อนรับ พระคริสต์ยังคงเสด็จมาในชีวิตของลูก อาเมน

(1) ชีวิตของเรา “อยู่” ภายใต้การปกครองของพระคริสต์หรือไม่?

(2) “ก้อนหิน” อะไรในชีวิตของเรา ที่ถ่วง “ความหวัง” ของเราไว้?

(3) เราจะมีส่วนอย่างไร ให้ “อาณาจักรแห่งสันติสุข” อยู่บนแผ่นดินโลกร่วมกันเราในเวลานี้

“ความหวังของประชาชาติ...อาณาจักรแห่งสันติสุข”

อิสยาห์ 11:1-10

วันอาทิตย์ 4 ธันวาคม 2022

บทนำ

(1) เทศกาลเตรียมรับเสด็จ 1 และ 2 จุดเทียนแห่งความหวัง และ เทียนแห่งความเชื่อ เทศกาลคริสตมาส เป็นช่วงเวลาแห่งความหวัง

(2) ภาพวาดของ Edward Hicks “อาณาจักรแห่งสันติสุขและสันติภาพ”

“ความหวังของประชาชาติ...อาณาจักรแห่งสันติสุข”

ความหวัง สามประการ “อยู่” ใน“อาณาจักรแห่งสันติสุข”

(1) “อยู่” ภายใต้การปกครองของพระคริสต์ (1-2)

พระวิญญาณ 7 ประการ (1) พระวิญญาณของพระยาห์เวห์ (2) พระวิญญาณแห่งปัญญา (3) ความเข้าใจ (4) คำปรึกษา (5) อานุภาพ (6) ความรู้ และ (7) ความยำเกรงพระยาห์เวห์

มาระโก 1:10, โรม 15:12, วิวรณ์ 5:5; 22:16

(2) “อยู่” ภายใต้การปกครองด้วยความยุติธรรมและความชอบธรรม (3ข-5)

2ธส 2:8

(3) “อยู่” ภายใต้ความเป็นเอกภาพ (6-9)

โฮเชยา 2:18, วิวรณ์ 7: 9

“10ในวันนั้น รากของเจสซี จะตั้งขึ้นเป็นสัญญาณแก่ชนชาติทั้งหลาย และท่านจะเป็นที่แสวงหาของบรรดาประชาชาติ และที่พำนักของท่านจะรุ่งโรจน์”

“อย่าถ่วงความหวังด้วยก้อนหิน”

คำถามสำหรับกลุ่มย่อยเพื่อการไตร่ตรอง:

(1) ชีวิตของเรา “อยู่” ภายใต้การปกครองของพระคริสต์หรือไม่?

(2) “ก้อนหิน” อะไรในชีวิตของเรา ที่ถ่วง “ความหวัง” ของเราไว้?

(3) เราจะมีส่วนอย่างไร ให้ “อาณาจักรแห่งสันติสุข” อยู่บนแผ่นดินโลกร่วมกันเราในเวลานี้