Untitled Sermon
Notes
Transcript
Sermon Tone Analysis
A
D
F
J
S
Emotion
A
C
T
Language
O
C
E
A
E
Social
ถ้าผู้นำเปลี่ยนทุกอย่างเปลี่ยน
ประสบการณ์บอกว่าถ้าผู้นำไม่เปลี่ยนแปลงก็จะไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของคนที่เขานำเช่นกัน
การเปลี่ยนแปลงต้องเริ่มต้นด้วยความสมัครใจจากข้างบนโดยการสำแดง มิฉะนั้นการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นอย่างดุเดือดจากข้างล่างโดยการปฏิรูป
· คุณสามารถดูได้จากตัวอย่างในชีวิตประจำวันของหลายคนว่าถ้าสามีไม่เปลี่ยน ก็จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในครอบครัว เราใช้เงินจำนวนมากในการเปลี่ยนแปลงผู้หญิงและเด็กๆ จากนั้นเราก็ส่งเขากลับไปบ้านที่สามีไม่เคยเปลี่ยนแปลง ครอบครัวก็เหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
· ดังนั้นผู้ชายต้องเรียนที่จะเปลี่ยนแปลง หลังจากเรียนบทเรียนนี้แล้ว คุณเต็มใจจะเปลี่ยนหรือไม่?
เป็นสิ่งที่ดีที่จะ:
o มีความปรารถนาอยากจะเปลี่ยน
o พูดถึงการเปลี่ยน
o วางแผนที่จะเปลี่ยน
o สัญญาว่าจะเปลี่ยน
แต่ทั้งสิ้นเหล่านี้ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลง
ทำไม? เพราะ...
การเปลี่ยนแปลงไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงจนกว่าคุณเปลี่ยนแปลง
เพื่อจะให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเราต้องมีองค์ประกอบสี่ประการเพื่อสนับสนุนเรา:
1. ต้องเปลี่ยนความคิด
1. ต้องเปลี่ยนความคิด
“1เหตุฉะนั้นพี่น้องทั้งหลาย เมื่อพิจารณาถึงพระเมตตาของพระเจ้า ข้าพเจ้าจึงขอให้ท่านทั้งหลายถวายตัวของท่านแด่พระเจ้าเป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิต ที่บริสุทธิ์ และที่พระเจ้าพอพระทัย นี่เป็นการนมัสการที่แท้จริง 2อย่าดำเนินชีวิตตามอย่างคนในโลกนี้ แต่จงรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจของท่านใหม่ แล้วท่านจึงจะสามารถพิสูจน์และยืนยันได้ว่าสิ่งใดคือพระประสงค์ของพระเจ้า คือพระประสงค์อันดีอันเป็นที่พอพระทัยและสมบูรณ์พร้อมของพระองค์” (โรม 12:1-2)
· เมื่อเราเปลี่ยนความคิด เราก็สามารถเปลี่ยนท่าทีและพฤติกรรม
· เรียนที่จะเติบโตสู่ระดับความรู้สูงสุด
3. สติปัญญา (ความสามารถที่จะประยุกต์ความจริง)
2. ความจริง
1. สมมุติฐาน
· ทำอย่างไรจึงจะได้สติปัญญาของพระเจ้า?
พระเจ้าทรงประทานพระปัญญาของพระองค์ผ่านทางชุมชนคริสเตียน
“จงให้พระวจนะของพระคริสต์เปี่ยมล้นอยู่ในท่านขณะที่ท่านสั่งสอนและเตือนสติกันด้วยปัญญาทั้งสิ้น และขณะที่ท่านร้องเพลงสดุดี เพลงนมัสการ และบทเพลงฝ่ายวิญญาณด้วยใจกตัญญูต่อพระเจ้า” (โคโลสี 3:16)
2. ต้องรายงานตัวต่อกลุ่ม (ชุมชนที่มีพระคริสต์เป็นศูนย์กลาง)
2. ต้องรายงานตัวต่อกลุ่ม (ชุมชนที่มีพระคริสต์เป็นศูนย์กลาง)
· คาอินเกิดมาเป็นผู้ชายที่เต็มร้อย แต่เขาไม่เติบโตขึ้นในความเป็นชาย เพราะเขาไม่ต้องการที่จะรายงานตัวต่อพระเจ้าหรือต่อใครทั้งนั้น
· นั่นเป็นเหตุให้เราต้องมีการรายงานตัวต่อกันและกันในกลุ่มเซลล์ เราต้องช่วยกันและกันในการฝึกสิ่งที่เราได้เรียนรู้แล้วจากการสร้างสาวก
“ท่านทั้งหลายจงเชื่อฟังและยอมอยู่ใต้บังคับบัญชาผู้นำของท่านซึ่งเฝ้าดูแลท่านในฐานะเป็นผู้ที่ต้องรายงาน จงเชื่อฟังเขาเพื่อเขาจะทำหน้าที่ด้วยความชื่นใจ ไม่ใช่จำใจรับภาระซึ่งไม่เป็นประโยชน์อันใดแก่ท่าน” (ฮีบรู 13:17)
“จิตใจเป็นตัวล่อลวงเหนือกว่าสิ่งอื่นใด และเสื่อมทรามจนสุดจะแก้ใครจะเข้าใจจิตใจนั้นได้?” (เยเรมีย์ 17:9)
เนื่องจากความสามารถของเราที่จะหลอกตัวเองให้เชื่อคำมุสา เราต้องรายงานตัวไม่เพียงต่อพระเจ้า แต่ต่อคนอื่นในพระกายของพระคริสต์ด้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ฉลาด การรายงานตัวเป็นของประทานจากพระเจ้าเพื่อช่วยเราให้อยู่ในทางที่ถูกต้องและดำเนินชีวิตฝ่ายวิญญาณอย่างประสบความสำเร็จ
3. ต้องสร้างนิสัยใหม่ให้ได้ใน 40 วัน
3. ต้องสร้างนิสัยใหม่ให้ได้ใน 40 วัน
· ตามผลการวิจัยระบุว่าถ้าเราต้องการสร้างนิสัยใหม่ขึ้นสักอย่างหนึ่ง เราต้องใช้เวลาอย่างน้อยสี่สิบวันเพื่อฝึกทำสิ่งนั้นอย่างต่อเนื่อง
“แต่พระองค์เสด็จออกไปในที่เปลี่ยวและทรงอธิษฐาน” (ลูกา 5:16)
“ข้าแต่พระเจ้า ในเวลาเช้าพระองค์ทรง สดับเสียงของข้าพระองค์” (สดุดี 5:3)
“และเมื่อให้ประชาชนเหล่านั้นไปหมดแล้ว พระองค์เสด็จขึ้นไปบนภูเขาโดยลำพังเพื่ออธิษฐาน เวลาก็ดึกลง พระองค์ยังทรงอยู่ที่นั่นแต่ผู้เดียว” (มัทธิว 14:23)
“เมื่อพระองค์ทรงลาเขาทั้งหลายแล้ว ก็เสด็จขึ้นภูเขาเพื่ออธิษฐานที่นั่น” (มาระโก 6:46)
4. ต้องสอนผู้อื่น
4. ต้องสอนผู้อื่น
· เมื่อเราเพียงแค่ได้ยิน ได้เห็น และได้ปฏิบัติตามหลักการเท่านั้น เราจะได้เรียนรู้อะไรมากมาย แต่เมื่อเราสอนผู้อื่นเราจะเรียนรู้มากกว่า
· เมื่อเราเป็นพี่เลี้ยงครอบครัวของเราและของคนอื่นโดยยึดหลักการเดียวกันเราจะเติบโตมากกว่า ทำไม? เมื่อเราช่วยคืนอื่นให้เปลี่ยนแปลง เราจะมีควาวหิวกระหายที่จะเปลี่ยนแปลงมากขึ้น
“จงมอบคำสอนเหล่านั้น ซึ่งท่านได้ยินจากข้าพเจ้าต่อหน้าพยานหลายคน ไว้กับคนที่ซื่อสัตย์ที่สามารถสอนคนอื่นได้ด้วย” (2 ทิโมธี 2:2)
“เราประกาศพระองค์ เราตักเตือนสั่งสอนทุกคนด้วยสติปัญญาทั้งสิ้นเพื่อจะถวายทุกคนให้เป็นผู้ที่ดีพร้อมในพระคริสต์” (โคโลสี 1:28)
การท้าทาย:
· ท้าทายเขาให้ตัดสินใจเปลี่ยนและลงมือปฏิบัติจริง
· แบ่งเป็นกลุ่มย่อยและวางแผนว่าทำอย่างไรจึงจะช่วยกันและกันให้เปลี่ยนแปลง
ท้าทาย
1. ต้องสร้างเปลี่ยนความคิด รายงานตัว สร้างนิสัย สอนคนอื่น
2. เราอยู่ไตรมาสที่สอง ผมอยากท้าทายพี่น้องให้ช่วยกันบัพติศมาในน้ำ 300 คน นั่นหมายความว่าต้องมีคนเข้าชั้นเรียน LIFECLASS 300 คน มันไม่ง่าย มันคือน้ำที่เราต้องเดิน แต่พี่น้องจะออกจากเรือมาเดินด้วยกันหรือไม่ มาร่วมกันทำสิ่งใหญ่เพื่อพระเจ้าด้วยกันหรือไม่? โดยการ
ก. มาอธิษฐาน 21 วันด้วยกัน
ข. ถวายตัวเป็นพี่เลี้ยงชั้นเรียน Life Class
ค. พา 2-3 คนมารับเชื่อและเข้าชั้นเรียน Life Class
อธิษฐาน
วางมือเผื่อพี่น้อง ขอพระวิญญาณเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ท่ามกลางสตรีทุกคนที่จะมีนิมิตพิชิตดวงวิญญาณด้วยกัน
พูดพร้อมกัน “โดยพระคริสต์ ฉันพิชิตสิ่งใหญ่เพื่อพระเจ้าได้”