The Great Teacher บรมครูผู้ย่ิงใหญ่

[Slide 1] สวัสดีครับ คุณครู RCDC ครับ ในฐานะที่เป็นตัวแทนจากคริสตจักร Christ Church กรุงเทพฯ ภาคภาษไทย เช้านี้ ก็อยากได้มีโอกาสนำพระคำพระเจ้า และ คำขอบคุณ มายังทางคณะ คุณครูทุกๆท่าน ร่วมถึง ครูอิ๋ว ครูอารี ที่มีส่วนในการผลักดันความสำเร็จ ในงานพันธกิจ RCDC ปีนี้เข้าสู่ปีที่ 22 ให้เป็นสะพานแห่งรักสายรุ้ง ที่ทำให้วันนี้ คริสตจักรเต็มไปด้วย ชีวิตที่สดใสของเด็กๆ ที่ความรักของพระเยซู คริสต์เป็นเหมือนกับ สะพานสายรุ้งแห่งความรัก นำพระพร ไปสู่ เด็กๆในชุมชม และครอบครัว ผู้ปกครอง

RCDC เริ่มต้นด้วย มิชชั่นนารีเพียงไม่กี่คน จากผู้หญิงที่พระเจ้าใส่ ภาระใจ ให้ท่านเหล่านั้น แม้ว่าปัจจุบัน จะไม่ได้อยู่กับเราที่นี่ ไม่ว่าจะเป็น อาจารย์โดราธี และอาจารย์ เกล เริ่มต้นเพียงเด็กไม่กี่คน จนปัจจุบัน เป็นพระพรให้กับเด็กๆ มากกว่า 100 คน รวมถึง การขยายพระพรนี้ ไปยัง ที่ห่างไกล ไม่ว่าจะเป็น สว่างแดนดิน จังหวัด สกลนคร บ้านฉาง ที่ระยอง ซึ่งผมเข้าใจว่า อาคารหลังใหม่ น่าจะแล้วเสร็จเร็วๆนี้แล้ว ปลายปีหน้า ถ้าพระเจ้าอนุญาต เราก็จะมี เพิ่มอีกหนึ่งแห่งคือที่ ลาดกระบัง ครูอิ๋ว ก็มีส่วนช่วยอย่างมากในเรื่องงานออกแบบ ร่วมกับสถาปนิก เพื่อให้ได้อาคารสำหรับ โรงเรียนอนุบาลที่สามารถเป็นพระพรได้อย่างแท้จริง และใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ในการเรียนและดูแลเด็กๆ เป็นพระพรที่ชุมชนที่ลาดกระบัง

ทั้งหมดนี้ ผมเห็นพระหัตถ์ของพระเจ้า อยู่กับ RCDC ผมขอบคุณพระเจ้า สำหรับ RCDC ที่เป็นพระพรให้กับเด็กๆ ผู้ปกครอง คุณครูทุกท่านครับ ท่านกำลังอยู่ในแผนการพระเจ้าที่ยิ่งใหญ่นี้ ไม่ว่าท่านจะรู้หรือไม่ก็ตามว่า เพื่อปลูกฝังเด็กๆ ไม่ใช่แต่เพียงพัฒนาการด้านร่างกาย จิตใจ ทักษะด้านภาษา และ สังคมเท่านั้น แต่คุณครูมีส่วนสำคัญอย่างมากในการมีส่วนปลูกฝังด้านจริยธรรมให้กับเด็กๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จริยธรรม ตามแบบอย่างพระคัมภีร์

เวลาผม ไปซื้อ ของบริเวณนี้ ก็มักจะเจอ ผู้ปกครอง หรือ ศิษย์เก่า RCDC ครับ วันหนึ่ง ผมไป ซื้อกาแฟสด ที่บ้านพักกรุงเทพคริสเตียน พอรู้ว่าผมทำงานที่คริสตจักร Christ Church น้องผู้ชายที่ชงกาแฟให้ โตเป็นหนุ่มแล้ว ก็เป็นศิษย์เก่า RCDC และ น้องก็จะพูดด้วยความภูมิใจว่า ผมเคยเรียนที่ RCDC หรือ Rainbow Land ผมคิดว่าเป็นความภาคภูมิใจ ของ RCDC นะครับ ที่พระเจ้าใช่ให้เราเป็นพระพรให้กับชุมชน และ มีส่วนช่วยสร้างชีวิตของเด็กๆ ให้มีค่านิยมที่ถูกต้องตามแบบอย่างพระคัมภีร์ ค่านิยมที่ผมเชื่อว่า คุณครูที่นี่ทุกคนมีส่วนสร้างขึ้นในชีวิตของเด็กๆ

พูดถึงเด็กๆ เมื่อ หลายเดือนก่อน อาจารย์ แอนดรู และไดอาน่า ต้องเข้ามาเพื่อสอนพระคัมภีร์ในกลุ่มสามัคคีธรรมช่วงเย็น แถวๆนี้ ก็เลย บอกผมว่า ฝากช่วยดูแล เคล่าให้หน่อย ค่ำๆจะกลับมารับ ผมกับภรรยาก็ดีใจครับ ไดอาน่าก็บอกกับเราว่า ก็เปิด youtube การ์ตูนเรื่องหนึ่งให้เค้าดู ก็น่าจะ โอเคร แต่แน่นอนครับ เราก็คิดว่า ไหนๆมาแล้ว ก็จะพาไป spoil หน่อย ไม่บอก อาจารย์แอนดรูกับไดอาน่า อารมณ์เหมือน ลุงๆ ป้าๆ หรือ อากงอาม่า ที่มักจะตามใจหลาน เพราะกลัวหลานไม่รัก ประมาณนั้น เราคงไม่ให้เคล่า ดูแค่ youtube ที่บ้าน แน่นอน ก็เลยวางแผนกับ ภรรยาว่า เดี๋ยวพอมาแล้ว จะพาไปกินไอติมสเวนเซ่น แถวบ้าน ทำคะแนนหน่อย

เย็นวันนั้น พออาจารย์แอนดรู ไดอาน่ามาส่ง แคร่าเสร็จแล้วก็ไป เราก็ คิดในใจ ว่าได้เวลา spoil น้อง เคล่าแล้ว เราพาเคล่าไปกินไอศกรีม เย็นนั้น เคล่าวิ่งไปรอบร้าน อยู่หลายรอบ เราก็ไม่ทำอะไร ผมคิดว่า คงสร้างรำคาญให้กับบางโต๊ะ เหมือนกัน พอกลับมาบ้าน แทนที่จะดู youtube ความจริงเปิดแป๊บเดียว เคล่า ก็ชวนเราเล่นตามอย่างที่เธอต้องการ โดยเธอจะรับบทเป็นผู้กำกับ แล้วทั้งผมกับภรรยา ต้องเล่นตามบทที่เธอต้องการ ค่ำวันนั้น เคล่ามีพลังงานมาก เราต้องเล่นตามบท ทุกบทที่เธอต้องการ จน อาจารย์แอนดรู กับไดอาน่ามารับกลับประมาณ สี่ทุ่ม

ถ้าผมจำไม่ผิด พออาจารย์แอนดรู กับ ไดอาน่า รู้เรื่องเท่านั้นว่า ไปกินทั้งไอติม กับ เล่นตามบทที่กำกับ เคล่าก็ไม่เคยได้มีโอกาสมาบ้านเราอีกเลย ทั้งๆที่เคล่า บอกแม่ว่าอยากเล่นบ้าน uncle หนุ่มอีก

ใช่ครับ ผมกำลังบอกว่า การดูแลเด็กเล็ก เป็นสิ่งที่ท้าทายครับ ต้องใช้ทั้งประสบการณ์ พลังงาน ความรักในงาน และ แน่นอน ความรู้ที่ถูกต้องในการดูแลเด็กเล็ก สิ่งนี้ ทำให้ผมนับถือ คุณครู ที่นี่มากครับ เพราะผมรู้ว่า ไม่ง่ายครับ ที่นี่ครูต้องดูแลเด็กกี่คนนะครับ ต่อชั้น .... ขนาดผมกับภรรยา ดูคนเดียว ก็เหนื่อยแย่เลย

ให้เราให้กำลัง ครู ข้างๆ เราดีมั้ยครับ ยิ้มให้คนข้างๆ “เธอเป็นครูที่เยี่ยมมาก” ด้วยกันครับ ขอบคุณพระเจ้า

เช้านี้ผมอยากจะมาแบ่งปันในพระธรรมตอนนี้เกี่ยวกับคุณครู ซึ่งผมคิดว่า เป็น ท่าทีภายใน ของคุณครูที่ เราพอจะเรียนรู้ได้จากพระธรรมตอนนี้ครับ ผมอ่านให้ฟังนะครับ มีทั้งหมด เจ็ดข้อ เท่านั้น อยู่ใน พระธรรม ยอห์น ครับ ยอห์น บทที่ 3 ข้อที่ 1-7 ผมพิมพ์ให้กับคุณครูครับ

[Slide 2]

พระเยซูกับนิโคเดมัส

“มีชายคนหนึ่งในพวกฟาริสีชื่อ นิโคเดมัส เป็นขุนนางของพวกยิว 2คนนี้มาหาพระเยซูตอนกลางคืนทูลพระองค์ว่า “ท่านอาจารย์ เราทราบว่าท่านเป็นครูที่มาจากพระเจ้า เพราะไม่มีใครทำหมายสำคัญที่ท่านทำนั้นได้ นอกจากพระเจ้าสถิตกับเขา 3พระเยซูตรัสตอบเขาว่า “เราบอกความจริงกับท่านว่า ถ้าคนใดไม่ได้เกิดใหม่ คนนั้นไม่สามารถเห็นแผ่นดินของพระเจ้า 4นิโคเดมัส ทูล พระองค์ว่า “คนชราจะเกิดใหม่ได้อย่างไร? จะเข้าไปในท้องของแม่ครั้งที่สองแล้วเกิดใหม่ได้หรือ? 5พระเยซูตรัสว่า “เราบอกความจริงกับท่านว่า ถ้าใครไม่ได้เกิดจากน้ำและพระวิญญาณ คนนั้นจะเข้าในแผ่นดินของพระเจ้าไม่ได้ 6ที่เกิดจากเนื้อหนังก็เป็นเนื้อหนัง และที่เกิดจากพระวิญญาณก็เป็นวิญญาณ 7อย่าประหลาดใจที่เราบอกท่านว่าพวกท่านต้องเกิดใหม่”

ท่าทีภายในจิตใจของเราเป็นสิ่งสำคัญ จิตใจเป็นเป็นเหมือนกับ ศูนย์ควบคุม บัญชาการในชีวิตของเรา ไม่ว่าจะเป็น การกระทำ พฤติกรรมภายนอก และ คำพูด ดังนั้น ท่าทีภายในจิตใจของครู จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ เช้าวันนี้มีอยู่ 2 ท่าทีด้วยกันครับ จากพระคัมภีร์ตอนนี้

[Slide 3]

ประการที่หนึ่ง เห็นคุณค่าของความเป็นครู

ทุกวันนี้ ความเป็นครู ถูกท้าทายและลดทอนคุณค่าอย่างมาก คุณค่า ถูกผูกติดกับ ราคา หรือผลตอบแทน ซึ่งแท้จริง แล้ว คุณค่า กับ ราคา หรือ ผลตอบแทน นั้นมีความแตกต่างกันอย่างมาก และไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้ สังคมทุกวันนี้ เลือกให้คุณค่าของงาน ผูกติดกับผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ ทำให้ งานที่ช่วยให้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจดี ก็จะได้ ผลตอบแทนที่ดีไปด้วย แต่ แน่นอน โดยสามัญสำนึก เราย่อมรู้ว่า มีบางงาน ซึ่งอาจจะไม่ให้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจที่ดี แต่มีคุณค่ามาก

งานหนึ่งที่ผมพูดถึง คือ ครู ครูอาจจะมีผลตอบแทนที่วัดเป็นตัวเลขทางเศรษฐกิจได้น้อย เมื่อเทียบกับงานในด้านอื่นๆ แต่ ครู เป็น งานที่มีคุณค่า เพราะ เป็นงานที่ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กเล็ก และ ทำประโยชน์ให้กับ ครอบครัว และสังคม แต่เนื่องจากวัดเป็นตัวเลขทางเศรษฐกิจได้น้อย ก็ทำให้ผลตอบแทนของครู มักจะไม่สูงมากนัก ตามตลาดแรงงาน ทำให้ทุกวันนี้ ความท้าทาย ของความเป็นครู คือ คนมองคุณค่า ของครู กับ ผลตอบแทน ที่เป็นเงิน ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ

แล้วพระคัมภีร์ ตอนนี้กำลังบอกอะไรกับเรา ในสังคมอิสราเอลโบราณ เป็นสังคมที่ให้ คุณค่า และ ยกย่อง ความเป็นครู อย่างสูง อาจารย์ หรือ สมัยนั้น เรียกกันว่า Rabbi เป็นงานที่มีเกียรติ และสังคมเห็นคุณค่า เพราะว่าเป็นงานที่สั่งสอนกฏเกณฑ์ของพระเจ้า ให้กับชุมชน ในพระคัมภีร์ ทั้งพันธสัญญาเดิม และ พันธสัญญาใหม่ ตลอดทั้งเล่ม ล้วนแต่มีข้อความที่ให้ความสำคัญ และบทบาทของความเป็นครู

ในพระคัมภีร์ตอนนี้ เราเห็น การสนทนา เกิดขึ้น ระหว่างผู้ที่เป็นครู สองคนที่ยิ่งใหญ่ คนแรกคือ นิโคเดมัส เป็นแทนครูที่ยิ่งใหญ่ที่เป็นมนุษย์ และบุคคลที่สอง คือ พระเยซู คริสต์ ครูที่ยิ่งใหญ่ ที่เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า

ครูคนแรก นิโคเดมัส เป็นเหมือนกับตัวแทนของมนุษย์ พระคัมภีร์บอกว่า เขาเป็นฟารีสี เป็นฟารีสี และเป็นหัวหน้าของพวกยิว มีตำแหน่งอยู่ในสภาปกครองด้านศาสนาในกรุงเยรูซาเล็มที่เรียกว่า สภาซานเอดิน ความเป็นครู เป็นสิ่งที่พระเจ้าให้เกียรติอย่างมากตลอดพระคัมภีร์ ฟารีสี มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในกฏเกณฑ์ต่างๆของพระเจ้า เขาจะนั่งในที่เป็นนั่งของโมเสส ผู้ที่พระเจ้าประทานธรรมบัญญัติให้ที่ภูเขาไซนาย หรือ บัญญัติสิบประการ เขาจึงเป็นตัวแทนของโมเสส ได้รับสิทธิอำนาจในการสั่งสอนประชาชนในชุมชน ได้รับที่นั่งของโมเสสในธรรมศาลาได้รับเกียรติ อย่างมาก

ครูที่ยิ่งใหญ่ คนที่สองคือ พระเยซู คริสต์ ผู้ทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงทำการอัศจรรย์ และหมายสำคัญมากมาย รักษาโรคภัยไข้เจ็บ และขับผี ทรงเทศนาสั่งสอนด้วยสิทธิอำนาจ และประกาศถึงแผ่นดินของพระเจ้า มีคนเป็นจำนวนมากติดตามพระองค์ พระเยซู ทรงเรียกสาวก หรือ ศิษย์ของพระองค์ ให้ติดตามพระองค์ ในสมัยก่อนนั้น สาวก หรือ ลูกศิษย์ ที่มาเรียนรู้กับอาจารย์ หรือ รับไบ นั้น ไม่เพียงแต่ การถ่ายทอดความรู้หรือทักษะในการประกอบอาชีพ เท่านั้น แต่ศิษย์นั้นจะต้องอยู่กับ อาจารย์ หรือ รับไบ ความสัมพันธ์ระหว่างลูกศิษย์กับอาจารย์ จึงมีมากกว่า การแค่ถ่ายทอด องค์ความรู้ แต่เพียงอย่างเดียว แต่ เป็นการสร้างชีวิต ลูกศิษย์ หรือสาวก จะเห็นแถบทุกการกระทำของอาจารย์ ได้เห็น วิถี การใช้ชีวิตของอาจารย์ การเป็นอาจารย์ นั้น จึงไม่ได้ หมายถึงแต่เพียงว่า มีความรู้ ความสามารถ ความเชี่ยวชาญแต่เพียงอย่างเดียว แต่องค์ประกอบที่สำคัญของการเป็นอาจารย์ จึงเป็นที่ลักษณะชีวิตด้วยเช่นกัน

นี่จึงเป็นคุณค่า ของ ความเป็นครู คุณค่าของความเป็นครู คือ นอกจากการถ่ายทอดความรู้แล้ว คุณค่าของการที่ครูที่สำคัญคือ การที่ครูได้มีส่วน มีอิทธิพลในทางดีต่อการสร้างลักษณะชีวิต ที่ดีให้กับลูกศิษย์ด้วยเช่นกัน

วันนี้ เราในฐานะที่เป็นคุณครู เราเห็นคุณค่า ของงานที่เราทำมากน้อยเพียงไร?

หรือเรา เห็นคุณค่าของงานของเรา เท่ากับ เงินเดือนที่เราได้รับ ซึ่งอาจจะไม่มากนัก เมื่อเปรียบเทียบกับอาชีพอื่นๆ ที่อาจจะสามารถให้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจที่มากกว่า การเป็นครู

เรากำลังอยู่ในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน โดยความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี ที่สำคัญคือ โลกของอินเตอร์เนต และ ค่านิยมของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปมาก เมื่อเทียบกับในอดีต คือ consumerism หรือ ลัทธิบริโภคนิยม ความสัมพันธ์ระหว่าง ครู กับ ลูกศิษย์ ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นแค่ transaction ระหว่าง ผู้ซื้อกับผู้ขาย ในตลาดการศึกษา

[Slide 4] ในที่นี้ มีใครรู้จัก ไมค์ ไทสันมั้ยครับ

กัส ดามาโต้ ชายผู้นำชีวิตไปเสี่ยงกับเด็กหนุ่มบ้านแตกใช้ชีวิตแบบแก๊งอาชญากรโดยมีความเชื่อว่า "ทุกคนมีความดีซ่อนอยู่ในตัว"

กัส ดามาโต้ ครูมวยที่รับหน้าที่สร้างเส้นทางเดินใหม่ให้กับเด็กๆ ผู้มีชีวิตที่พวกเขาไม่มีทางเลือก และหนึ่งในนั้นคือ ไมค์ ไทสัน แชมป์มวยเฮฟวี่เวตที่ดีที่สุดคนหนึ่งที่โลกเคยมี

ดามาโต้ เป็นคริสเตียนที่รักพระเจ้า แม้ว่าเขาจะเติบโตมาในครอบครัวที่ยากจน อาศัยอยู่ในถิ่นที่เสื่อมโทรมในนิวยอคก์ แต่เค้ามีความเชื่อว่า โลกนี้ต้องขับเคลื่อนได้ด้วยความรัก

กัส ตัดสินใจเปิดค่ายมวยเมื่ออายุได้ อายุ 22 ปี กัส เปิดยิมหรือค่ายมวยโดย เข้าหุ้นกับ แจ็ค บาร์โรว์ เพื่อนของเขา โดยตัวของ แจ็ค เป็นคนลงเงินเป็นหลัก ส่วน กัส มีหน้าที่เป็นครูมวย กิน นอน และใช้ชีวิตอยู่ที่โรงยิม นั่นคือหน้าที่ของเขา

เด็กๆ จากย่านเสื่อมโทรมในนิวยอค์ก หลายคนเข้ามาที่นี่เพื่อเรียนวิชามวย ทว่าสิ่งที่พวกเขาไม่เคยรู้ตัวเลยคือพวกเขาได้วิชาชีวิตจาก กัส ที่มักจะสอดแทรกให้เด็กทุกคนด้วยความรักเสมอ เหมือนกับสิ่งที่เขาเชื่อมาตลอดชีวิต

ไมค์ ไทสันให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องราวในวัยเด็ก ว่า

"ผมเป็นแค่เด็กตัวเล็กๆ ที่มีหน้าที่ปีนหน้าต่างเข้าไปปลดล็อกประตูให้กับพวกพี่ๆ ในแก๊ง ในกลุ่มอาชญากรเล็กๆ นี้ นี่คือโรงเรียนของผม ที่เต็มไปด้วยชีวิตยามค่ำคืนและแสงสี"

ไมค์ ไทสัน มักจะต่อยเพื่อนในห้องทุกครั้งที่อารมณ์เสีย จนถูกส่งเข้าโรงเรียนดัดสันดานที่ แต่พฤติกรรมของเขาไม่เปลี่ยนแปลง

"ที่นั่นผมยังชกทุกคนที่ขวางหน้า ผมชกนักเรียน ผมชกการ์ดของโรงเรียน ใครที่มันกล้ายุ่งกับผม ผมจะรอเวลาเพื่อจัดการมัน" เหตุผลนี้เองที่ทำให้ ไทสัน โดนจับขังคุกมืดของโรงเรียน คุกที่มีสภาพไม่ต่างกับคุกของผู้ใหญ่ ต่อมา ไมค์ ไทสัน ถูกส่งตัวให้กับ นักสังคมสงเคราะห์และได้รับการส่งเสริมให้ไปเรียนชกมวยกับ กัส ดามาโต้ ในเวลาต่อมา

กัสเชื่อเสมอว่า การที่ได้หยิบยื่นมือแห่งความรักให้ใครสักคน เพื่อมอบโอกาสหรือสนับสนุนให้พวกเขาก้าวไปข้างหน้า คือ สิ่งที่สังคมต้องการ มีผู้คนมากมาย ที่ต้องการการช่วยเหลือสนับสนุนเพื่อโอกาสที่ดีกว่า และไทสัน ก็ได้รับมือแห่งความรักนั้น...

กัสได้ ทำให้ไมค์ ไทสัน เห็นคุณค่าของตนเอง สอนเขาให้เป็นคนที่มีค่านิยม ในทำงานหนัก การมีระเบียบวินัย ความอดทนทั้งด้านร่างกายและจิตใจ เขามักจะบอกกับไมค์ ไทสันเสมอว่า เขาสามารถเป็นแชม์ป

โลกได้ และในที่สุด คำพูดของครู คนนี้ก็เป็นจริง น่าเสียดายที่ กัส ไม่ได้มีชีวิตอยู่เห็นความสำเร็จของไมค์ ไทสัน ลูกศิษย์ที่รักของเขา กัสเสียชีวิตเมื่ออายุได้ 77 ปีด้วยโรคปอดบวม เพียงหนึ่งปีก่อนที่ ไมค์ ไทสันจะได้ตำแหน่งแชมป์โลก

ไทสัน ให้สัมภาษณ์ว่า “ผมต้องการความนับถือจากใครสักคนจากการที่โดนกระทำในอดีต ดังนั้นผมจึงต้องการ กัส เพื่อช่วยให้ผมกลายเป็นใครสักคนบนโลกนี้”

คุณค่าของความเป็นครู อยู่ที่ไหนครับ?

อยู่ที่ผมตอบแทนในรูปแบบของเศรษฐกิจ ที่เป็นตัวเงิน เพียงอย่างเดียวหรือไม่?

อยู่ที่สิ่งที่สังคมพยายามยัดเยียด ให้ว่า ครู คือ service provider หรือผู้ให้บริการ และ ลูกศิษย์ หรือผู้ปกครองคือ ผู้รับบริการ หรือ ลูกค้าหรือเปล่า?

อยู่ที่ว่า ความเป็นครู คือ transaction หรือ ธุรกรรมที่ ครูมีเพียงหน้าที่ download หรือ ถ่ายทอด ชุดข้อมูลหรือความรู้ทางสมองให้กับลูกศิษย์หรือเปล่า?

คุณค่าของความเป็นครูที่แท้จริง อยู่ที่ความรักและ การอุทิศตนเพื่อที่นำการเปลี่ยนแปลงชีวิตในทางดีขึ้น นำชีวิตใหม่ให้เกิดขึ้นในตัวของลูกศิษย์

พระเยซู คริสต์ทรงกระทำหมายสำคัญการอัศจรรย์ ในการรักษาโรค ขับผี ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากในสังคม นิโคเดมัส กล่าวกับพระเยซู คริสต์ว่า “ท่านอาจารย์ เราทราบว่าท่านเป็นครูที่มาจากพระเจ้า เพราะไม่มีใครทำหมายสำคัญที่ท่านทำนั้นได้ นอกจากพระเจ้าสถิตกับเขา”

พระเยซู ทรงเปลี่ยนแปลงชีวิตคน ที่สิ้นหวัง หมดหวัง และ เป็นขยะสังคม เป็นคนที่ไม่มีใครต้องการในเวลานั้น คนเป็นโรคเรื้อน คนพิการ คนตาบอด คนที่ผีเข้า เขาเหล่านี้ไม่เป็นที่ต้องการของสังคม แต่พระเยซู ทรงรักษาบุคคลเหล่านี้ด้วยความรัก นิโคเดมัส กล่าวว่า ด้วยหมายสำคัญที่พระองค์ทรงกระทำ ทำให้ เรารู้ว่า พระเยซู ทรงเป็นครูที่มาจากพระเจ้า

กัส ทำในสิ่งที่พระเยซู คริสต์ทรงกระทำเมื่อสองพันกว่าปีที่แล้ว เขาตั้งโรงเรียนสอนชกมวย ในถิ่นที่เสื่อมโทรมที่สุดในนิวยอค์ก เปลี่ยนแปลงชีวิตของเด็กหนุ่ม เหลือขอ ที่เป็น กากเดนของสังคม เด็กๆที่ไม่เป็นที่ต้องการของสังคม โดยการสอน การชกมวยให้กับเด็กๆ แต่ไม่เพียงแค่เป็นครูสอนมวยเท่านั้น

กัส ทำสิ่งมหัศจรรย์ด้วยความรักเหมือนอย่างพระเยซู คริสต์ ความรักที่ไม่มีเงื่อนไข ทำให้ไมค์ ไทสัน พบว่าตัวเองนั้นมีคุณค่า ชีวิตมีเป้าหมาย ไม่มีการอัศจรรย์ใดๆ ที่ยิ่งใหญ่ไปกว่า การเปลี่ยนแปลงชีวิตคน

กัส คือ ครูที่มาจากพระเจ้า

วันนี้ คุณครูกำลังอยู่ใน mission ของการนำพระพรของพระเยซู คริสต์ ความรักของพระเจ้า ที่ปราศจากเงื่อนไข ให้กับ เด็กๆ นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงชีวิต ค่านิยม เรียนรู้การอยู่ร่วมกันในสังคม และ จริยธรรม นอกเหนือจาก ทักษะ ความรู้ และกระตุ้นพัฒนาการด้านร่างกาย และ สติปัญญา

คุณครู กำลังทำการอัศจรรย์ให้เกิดขึ้นในชีวิตของเด็กๆและผู้ปกครอง ที่ครูได้มีโอกาส สัมผัส และแตะต้องชีวิต ความเป็นครู แท้จริงแล้ว เป็นการทรงเรียก หรือ calling จากพระเจ้า ให้เราได้มีส่วนร่วมกับพระองค์ในการนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงชีวิตของเด็กๆในทางที่ดีขึ้น

เหมือนที่ นิโคเดมัส กล่าวกับพระเยซู คริสต์ว่า “เราทราบว่า ท่านเป็นครูที่มาจากพระเจ้า”

กัส เป็นครูที่มาจากพระเจ้า

ครูที่ RCDC ครับ ท่านเป็น ครูที่มาจากพระเจ้า ให้เราหันไปหาคนข้างๆ บอกกับเพื่อนครู ข้างๆเราครับ ให้เราเห็นคุณค่าความเป็นครูร่วมกันครับ ว่า เธอเป็นครูที่มาจากพระเจ้า

เราต้องดึงคุณค่าของครูที่แท้จริงออกมา นั้นคือ การที่ครูมีส่วนในการเปลี่ยนแปลงชีวิตของเด็กๆในทางที่ดีขึ้น ด้วยความรักที่ไม่มีเงื่อนไข ความรักตามแบบอย่างพระคัมภีร์ ความรักแบบพระเจ้า อาเมนมั้ยครับ

[Slide 5] ประการที่สอง เรียนรู้ตลอดชีวิต

ความรู้แห่งความเป็นจริง ทุกความรู้ ล้วนมาจากพระเจ้า เพราะว่าพระเจ้าทรงเป็นแหล่งแห่งความรู้

เพราะว่า พระเจ้าที่คริสเตียน นมัสการ คือ พระเจ้าองค์สูงสุด ผู้ส่งสร้างฟ้า จักรวาล และ แผ่นดินโลก ผู้ทรงเนรมิตสร้างทุกสิ่ง รวมถึง สร้างธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่

พระธรรมยอห์น จะเขียนเป็นสัญลักษณ์ และ เป็นแนวแบบ สองสิ่งที่ขัดแย้งกัน หรือที่เรียกว่า dualistic คือ มีความมืด กับ ความสว่าง, กลางวัน กับ กลางคืน, เนื้อหนังหรือ กายภาพ กับ ฝ่ายวิญญาณ, ความดี กับ ความชั่ว เป็นต้น

ในพระคัมภีร์ตอนนี้ นิโคเดมัส ครูผู้ยิ่งใหญ่ ที่เป็นเหมือนกับตัวแทนของมนุษย์ ได้ มาหา พระเยซู คริสต์ พระคัมภีร์บอกว่า เขามาหาพระเยซู ในเวลาค่ำคืน สำหรับธรรมเนียมชาวยิวแล้ว เวลาค่ำคืน อากาศสบายๆ นั่งอยู่ที่เฉลียงบ้าน จะเป็นช่วงเวลาที่ รับไบ จะใช่เวลา อยู่กับ ลูกศิษย์ หรือสาวก ในการสอน ในการพูดคุยเรื่องราวต่างๆ เป็นโอกาสที่สาวก หรือลูกศิษย์ จะได้มีโอกาสทบทวน และ ซักถามข้อสงสัยต่างๆ

นิโคเดมัส น่าจะเป็นคนที่อาวุโสทีเดียว เพราะในข้อที่ 4 นิโคเดมัส ถามพระเยซู ว่า คนชราจะเกิดใหม่ได้อย่างไร? และอีกทั้งเนื่องจากนิโคเดมัส เป็นหัวหน้าของพวกยิว และมีตำแหน่งในสภาศาสนา ซานหิดิน ก็ย่อมแสดงว่า นิโคเดมัส น่าเป็นฟาริสี ที่มีทั้งวัยวุฒิ และคุณวุฒิ

พระคัมภีร์บอกว่า นิโคเดมัส มาหาหาพระเยซู คริสต์ ผู้ที่ยอห์นบอกว่า ทรงเป็นความสว่าง นิโคเดมัส มาหาพระเยซู ในเวลามืด เขามาจากความมืด เข้าหาพระเยซู คริสต์ เพื่อสนทนาธรรม จากความมืด เข้ามาหา องค์ความสว่าง ผู้ซึ่งตอบคำถามที่เขาสงสัย ทำให้เขาได้รับความสว่างจากคำตอบของพระเยซู คริสต์

นิโคเดมัส ที่ดูเหมือนว่า ด้วยทั้ง ตำแหน่ง หน้าที่ การงาน และ วัยวุฒิทางโลก ที่สูงกว่า พระเยซู คริสต์ รับไบหนุ่ม อายุ ประมาณ สามสิบต้นๆ กลับเป็นฝ่ายมาหา พระเยซู คริสต์ และมาในเวลาค่ำคืน ซึ่งเป็นสิ่งที่ รับไบใช่เวลากับลูกศิษย์ นั่งอยู่ที่เฉลียงบ้าน ในเวลาค่ำคืน มีแสงตะเกียง ให้ความสว่างเหมือนกับภาพในจินตนาการนี้

[Slide 6]

เพื่อต้องการแสวงหาความจริง ความรู้ที่ถูกต้อง นิโคเดมัส มาด้วยท่าทีของการเป็นลูกศิษย์ของพระเยซู เราเห็นภาพ การสนทนาธรรม ระหว่าง ครูผู้ยิ่งใหญ่สองคน คนหนึ่งเป็นเหมือนกับตัวแทนของมนุษย์ที่แสวงหา ความจริง และต้องการความจริง มาจากความมืด เข้าหา องค์ความสว่าง และ ครูผู้ยิ่งใหญ่อีกคนที่มาจากพระเจ้า

เราก็เช่นเดียวกัน ความเป็นครู หลายครั้ง มักจะทำให้เรา คิดว่า เราเป็นน้ำเต็มแก้ว เรารู้ทุกสิ่งแล้ว ไม่ต้องเรียนรู้จากใครอีก แต่ในความเป็นจริงแล้ว ทุกวันนี้มีชุดความรู้ใหม่ ออกมามากมาย และอยากที่ผมบอก แท้จริงแล้ว ทุกๆความรู้ที่เป็นความจริงนั้นล้วนมาจากพระเจ้า พระเจ้าทรงเลือกที่จะเปิดเผยกับมนุษย์ผู้ที่แสวงหาความจริง พระเจ้าทรงครอบครองอยู่ เหนือมนุษย์ทุกคน แม้ว่าเขาจะตระหนักความจริงในข้อนี้หรือไม่ก็ตาม

ครูที่ดี จึง ต้อง เรียนรู้ตลอดชีวิต การเรียนรู้ตลอดชีวิต หมายความว่า อาจจะมีช่วงเวลา ที่เราต้องเรียนรู้จากคนที่อายุน้อยกว่า เรา เด็กกว่าเรา เพราะความรู้ถูก update ตลอดเวลา

อย่าหยุด การเรียนรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรียนรู้จาก ครูที่อาจจะอายุน้อยกว่าเรา เพราะไม่อย่างงั้น ความรู้ของเราจะล้าสมัย ก้าวไม่ทันกับโลกที่ตอนนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมาก มี disrupt เกิดขึ้นแทบทุกวงการ

ทุกวันนี้ เรารู้มั้ยครับ ว่า เราสามารถเรียนรู้ และพัฒนาทักษะต่างๆ มากมายได้จาก โลกอินเตอร์เนต จาก application บนมือถือ เราเรียนรู้ภาษาใหม่ๆ จาก โลก ผู้สอน ทาง social media

เมื่อเร็วๆนี้ ผมเรียนและฝึกเปียโนขั้นพื้นฐาน จาก application

ครูที่ยิ่งใหญ่ จะไม่หยุด การเรียนรู้ ครูต้องเรียนรู้ตลอดชีวิต ด้วยความถ่อมใจ ครูสามารถเรียนรู้ได้จากครูที่อาจจะอายุน้อยกว่าเราได้นะครับ เหมือนอย่าง นิโคเดมัส ที่เรียนรู้จากรับไบที่อายุน้อยกว่าคือพระเยซูคริสต์ เกี่ยวกับความจริงของพระเจ้า นิโคเดมัส กล้าที่จะถามความเข้าใจผิดของตนกับพระเยซูคริสต์

ในข้อที่ 3 ถึงข้อที่ 7

3พระเยซูตรัสตอบเขาว่า “เราบอกความจริงกับท่านว่า ถ้าคนใดไม่ได้เกิดใหม่ คนนั้นไม่สามารถเห็นแผ่นดินของพระเจ้า 4นิโคเดมัส ทูล พระองค์ว่า “คนชราจะเกิดใหม่ได้อย่างไร? จะเข้าไปในท้องของแม่ครั้งที่สองแล้วเกิดใหม่ได้หรือ? 5พระเยซูตรัสว่า “เราบอกความจริงกับท่านว่า ถ้าใครไม่ได้เกิดจากน้ำและพระวิญญาณ คนนั้นจะเข้าในแผ่นดินของพระเจ้าไม่ได้ 6ที่เกิดจากเนื้อหนังก็เป็นเนื้อหนัง และที่เกิดจากพระวิญญาณก็เป็นวิญญาณ 7อย่าประหลาดใจที่เราบอกท่านว่าพวกท่านต้องเกิดใหม่”

และนิโคเดมัสก็ได้รู้ความจริงจากปากของพระเยซู คริสต์ เพื่อที่เขาจะกลับมามีชีวิต ได้รับชีวิตที่บังเกิดใหม่

เข้าอยู่ในแผ่นดินของพระเจ้า

พระธรรมตอนนี้ เป็นบทสนทนาที่งดงามมาก ระหว่างบรมครู สองคน ระหว่างบรมครูที่เป็นเหมือนกับตัวแทนของมนุษย์ที่แสวงหาความจริงของชีวิต และ บรมครู ที่มาจากพระเจ้า และเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าเอง ที่เป็นครู คือพระเยซู คริสต์

[Slide 7] มีสองสิ่งนะครับ สำหรับ ลักษณะครูที่ยิ่งใหญ่นะครับ

ประการที่หนึ่งคือ เห็นคุณค่าของความเป็นครู เพราะว่าเป็นการทรงเรียก นอกจากสอนความรู้ และทักษะต่างๆแล้ว ยังมีอิทธิพลชีวิตให้กับลูกศิษย์ในการเปลี่ยนแปลงชีวิต เป็นครูที่มาจากพระเจ้า

และประการที่สอง ครับ เป็นครู ที่ เรียนรู้ตลอดชีวิต ด้วย ความถ่อมใจ เป็นเหมือน กับ น้ำที่ไม่เต็มแก้ว รับความรู้ใหม่ๆ ที่ถูกต้องตามความเป็นจริงได้ ไม่ยึดแต่กับความรู้เดิมที่อาจจะล้าสมัย และ ไม่ได้ update

[Slide 8]สำหรับคุณครูที่อยากจะเรียนรู้จัก เรื่องราวพระเจ้ามากยิ่งขึ้น ผมอยากจะหนุนใจ และเรียนเชิญคุณครู ให้มาเยี่ยมรอบนมัสการพระเจ้าได้ในวันอาทิตย์ ทุกวันอาทิตย์ เวลา บ่ายโมงครึ่ง ทางคริสตจักรยินดีต้อนรับครูทุกท่าน

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จะมีการจัด หลักสูตร อัลฟ่า คอส์ต ครับ เริ่มวันวาเรนไทด์นี้ครับ 14 กุมภาพันธ์ เย็นวันศุกร์ ประมาณ 7 ครั้ง มีบรรยากาศ การเล่นเกมส์ รับประทานอาหารร่วมกัน ฟังการบรรยาย เกี่ยวกับเรื่องราวพระเจ้า พระเยซู คริสต์ และ กลุ่มย่อยในการสนทนา ท่านสามารถถามได้ทุกคำถาม ทุกคำถามที่ท่านสงสัย เหมือนอย่างครู นิโดเดมัส เข้ามาหา พระเยซู คริสต์ ครูผู้มาจากพระเจ้า เพราะอย่างจะรู้ความจริงเกี่ยวกับชีวิต

ให้เราร่วมใจกันอธิษฐานครับ