กลับสู่ความหวังตามพระสัญญา

Joel  •  Sermon  •  Submitted
0 ratings
· 172 views
Notes
Transcript
การกลับใจนำสู่พระพร
คริสตจักรแองลิกัน ลาดกระบัง/ ไคร้สตเชิช กรุงเทพ
วันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน 2021
โยเอล 2: 18-27
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Word Count 3,700 ; Time 30 minutes
พระเจ้าสถิตกับท่าน [และสถิตกับท่านด้วย]
พี่น้องครับ วันนี้ เราปรับตัวได้แล้วหรือยังครับ กับ New Normal ชีวิตวิถีใหม่ การมาของไวรัสโคโรน่า ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2019 และการระบาดครั้งใหญ่ๆในประเทศไทย รวมครั้งนี้ก็ สามระลอกแล้ว ได้ปฎิวัติการดำเนินชีวิตประจำวันของเราอย่างสิ้นเชิง แทบจะจำวิถีชีวิตเก่าของเราไม่ได้เลยนะครับ ประมาณปีครึ่งแล้วครับ
New Normal วิถีชีวิตใหม่ ไม่ว่าจะเป็น การที่เราต้องใส่หน้ากากผ้า หน้ากากอนามัย บางคนเพื่อความมั่นใจต้องใส่หน้ากากสองชั้น หรือใส่ Face Shield เพิ่มอีกชั้น [ขณะที่ผมเทศนาอยู่นี่ ต้องพูดไปพร้อมกันหน้ากาก หายใจลำบาก อึดอัด] เราต้องล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์บ่อยๆ การรักษาระยะห่าง เวลามีใครมาคุยอยู่ใกล้ๆกัน เราก็จะไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่
ทุกๆคนในสังคม ทุกระดับ ทุกอาชีพเรียกได้ว่า ต่างได้รับผลกระทบจากการมาเยี่ยมเยียนของไวรัสโคโรน่า ไม่แตกต่างกัน อยู่ที่ว่า จะมากหรือน้อย ช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง เด็กๆ พ่อแม่ผู้ปกครอง คุณครู ก็ได้รับผลกระทบ เด็กๆรุ่นโควิดนี้ ต้องเรียนออนไลน์จากที่บ้าน เป็นรุ่นแรกเลยนะครับสำหรับ generation นี้ พ่อแม่ก็ต้องดูแลกวดขันให้เด็กเข้าเรียนออนไลน์ วุ่นวายไปทั้งบ้าน คุณครูต้องทำสื่อการสอนผ่านช่องทางออนไลน์ ประชุมผู้ปกครอง และ สอนผ่านออนไลน์, เด็กบางคน ปีนี้เข้ามหาวิทยาลัยก็มีกิจกรรมรับน้องแบบออนไลน์ น้องมัธยมบางคน ย้ายโรงเรียนมาก็เรียนออนไลน์จากบ้าน รู้จัก แนะนำเพื่อนใหม่ในชั้นเรียนผ่านทางออนไลน์
ความกังวลและระวังตัวในการสังสรรค์ในกลุ่มคน หลายครั้งเราก็มีความหวาดระแวงคนที่เราต้องพบเจอ พูดคุย ประชุมด้วย ยิ่งถ้าคนๆนั้นมาจากพื้นที่ ที่ประกาศเป็นคลัสเตอร์กลุ่มเสี่ยงสูง เราก็อาจจะไม่สนิทใจในการพูดคุย สถานการณ์โควิด ก็ยิ่งตอกย้ำให้หนักขึ้นไปอีก จากเดิมเป็นคนเก็บตัวอยู่แล้ว ก็ยิ่งเก็บตัวเข้าไปอีก จากเดิมเป็นคนที่วิตกกังวลง่ายอยู่แล้ว เป็นคนขี้กลัวง่ายอยู่แล้ว สถานการณ์โควิดก็ยิ่งทำให้ยิ่งวิตกกังวล หรือเพิ่มความหวาดกลัวเข้าไปอีก ยิ่งถ้าดูข่าวมากๆด้วย ไม่ว่า กลัวผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน กลัวการติดเชื้อสายพันธ์ใหม่ที่กลายพันธุ์ นี่ยังไม่นับรวมผลกระทบทางเศรษฐกิจ รายได้ที่ลดลง บางคนถึงขั้นตกงาน เจ้าของธุรกิจอาจต้องขาดทุน หรือ เลิกกิจการไปในที่สุด กลุ่มคนที่ยากลำบากคือคนที่เปราะบางในสังคม ครอบครัวที่สมาชิกต้องสูญเสียชีวิตจากการระบาด
ชีวิตการนมัสการพระเจ้าก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน การนมัสการพระเจ้าในวันอาทิตย์ เราก็ต้องเปลี่ยนมาเป็นนมัสการออนไลน์จากที่บ้าน on on off off มาหลายครั้งแล้วนะครับ ตั้งแต่ปีที่แล้ว ครั้งนี้น่าจะนานหน่อย การพบกันในกลุ่มย่อย กลุ่มเซล ก็ต้องพบกันทางออนไลน์ พี่น้องในคริสตจักรก็ไม่สามารถเข้ามาเพื่อรับพระคุณพระเจ้าผ่านทางพิธีมหาสนิทได้ ค่ายคริสตจักรก็ยังไม่สามารถจัดได้ พิธีรับศีลกำลัง ที่บิชอปเดินทางมาไม่ได้ งานแต่งงาน งานเฉลิมฉลองต่างๆก็ต้องเลื่อนออกไป
อาณาจักรยูดาห์ในพระคัมภีร์ ก็เหมือนกับเราในเวลานี้ ต้องเผชิญกับ New Normal แต่แทนที่จะเป็นการมาของไวรัสโคโลน่า กลับเป็นการมา รุกรานของกองทัพฝูงตั๊กแตน ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในชั่วชีวิตของพวกเขา พระคัมภีร์บรรยายว่ามาอย่างมืดฟ้ามัวดิน กองทัพตั๊กแตนทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า พืชผลการเกษตร ไม่ว่าในทุ่งนา ในยุ้งฉาง เสียหายทั้งหมด
New Normal ของยูดาห์ คือ แทนที่เคยมีอาหารอย่างบริบูรณ์ กลับต้องอยู่อย่างการปันส่วนอาหาร แน่นอนคงต้องมีการนำเข้าอาหารจากประเทศเพื่อนบ้าน คงเป็นยุคที่ข้าวยากหมากแพง งานสังสรรค์ งานแต่งงาน งานเฉลิมฉลองคงต้องถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด เพราะขาดแคลนอาหาร เหล้าองุ่น น้ำมันมะกอก ในบทที่ 1 ข้อ 11, 12 “ชาวนาทั้งหลายเอ๋ย จงระทดหดหู่ ผู้แต่งเถาองุ่นเอ๋ย จงคร่ำครวญ เนื่องด้วยข้าวสาลีและข้าวบาร์เลย์ เพราะผลผลิตจากนาก็ถูกทำลาย เถาองุ่นก็เหี่ยวแห้ง ต้นมะเดื่อก็เฉาไป ทั้งต้นทับทิม และต้นอินทผลัมกับต้นแอปเปิ้ลด้วย ต้นไม้ทั้งหมดในนาก็เหี่ยวแห้งไป ความยินดีก็ห่อเหี่ยวไป จากบรรดาบุตรของมนุษย์”
ผู้คนคงไม่มีกระจิตกระใจที่จะมาเฉลิมฉลอง อาจจะมีคนจำนวนหนึ่งต้องเสียชีวิตจากการขาดแคลนอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มคนที่เปราะบางในสังคม
ไม่ยกเว้นแม้กระทั่ง ชีวิตการนมัสการพระเจ้า ในพระวิหาร ฟังแล้วคุ้นๆมั้ยครับ ปุโรหิต คนเลวี ไม่สามารถทำหน้าที่ของตนเองได้ นำประชากรของพระเจ้าเข้ามานมัสการพระเจ้า ผ่านการประกอบศาสนพิธีประจำวันได้ เพราะ ไม่มีธัญบูชา ไม่มีเหล้าองุ่น พวกเขาไม่สามารถปรนนิบัติพระเจ้าได้ในพระวิหาร เพราะการมารุกรานของฝูงกองทัพตั๊กแตน ในข้อ 9 “ปุโรหิตก็โศกเศร้าคือผู้ปรนนิบัติพระยาห์เวห์ ธัญบูชาและเครื่องดื่มบูชาถูกเอาออกไปจากพระนิเวศของพระยาห์เวห์”
เกิดอะไรขึ้นกันแน่ !!! กับโลกใบนี้ที่เราอาศัยอยู่
เรามองวิกฤตการณ์นี้อย่างไร ? ด้วยมุมมองแบบไหน? มองแบบมนุษย์ที่ไม่รู้จักพระเจ้า หรือ มองด้วยการถ่อมใจ คุกเข่าอธิษฐานเพื่อรับการสำแดงจากพระเจ้า
ภาพวาดนางมารีย์กับพระกุมารเยซู วาดโดยศิลปิน ฟิลิปปีโน่ ลิปปี้ ในปี 1485 ภาพวาดของเขาถูกจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติ ที่ลอนดอน National Gellery Musem ภาพวาดของเขามีมิติที่ผิดขนาด ถ้ำและภูเขาที่อยู่ด้านหลังนางมารีย์ดูใหญ่ผิดขนาด ไม่ได้มิติ ภาพวาดของ ฟิลิปปีโน่ ลิปปี้ ภาพนี้จึงถูกจัดอยู่ในกลุ่มภาพวาดเกรด B หาความงดงามไม่ได้ เพราะการผิดขนาดจาก perspective จนกระทั่งมีผู้เชี่ยวชาญภาพวาดศิลปะได้มีโอกาสเข้ามาเยี่ยมชม ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญท่านนี้มองดูภาพวาดนี้ที่แขวนอยู่ในระดับสายตา เขาก็มองอยู่นานจนกระทั่ง เขา “ปิ๊ง” ขึ้นมา การสำแดงจากพระเจ้าในความคิด เขาคุกเข่าลงบนพื้นพิพิธภัณฑ์ แล้วเงยหน้าขึ้นมองภาพนั้นอีกครั้งในขณะที่เขาคุกเข่าอยู่ เขากลับพบว่า มิติของภาพถูกต้องอย่างงดงาม เหมือนกับว่า ตัวเขาเองกำลังคุกเข่าอยู่ระหว่าง นักบุญดอมินิกกับ เจอโรม เพื่อเข้าเฝ้านางมารีย์และพระกุมารเยซู เพราะศิลปินผู้วาด ลิปปี้ ตั้งใจวาดภาพนี้ให้ตั้งอยู่บนแท่นบูชา เพื่อที่เข้ามาอธิษฐานเมื่อเงยหน้าขึ้นจะสามารถมองภาพวาดได้อย่างถูกต้อง
พี่น้องครับ วิกฤตการณ์ การระบาดของกองทัพฝูงตั๊กแตนในยูดาห์ พระเจ้าทรงใช้โยเอล มาเพื่อให้อิสราเอลมองเห็นภาพของวิกฤตการณ์นี้อย่างเข้าใจ เมื่ออิสราเอลถ่อมใจลง คุกเข่าต่อพระยาห์เวห์
พระเจ้าได้ส่งผู้ส่งสารน์ของพระองค์ คือ โยเอล ผู้เผยพระวจนะ เพื่อมา บอกกับชนชาติอิสราเอลว่า ภัยพิบัติครั้งนี้ คือ การเตือนภัย ที่มาจากพระเจ้า มาถึง ประชากรของพระองค์ ที่ กำลังดำเนินชีวิต อยู่ในความประมาท ดำเนินชีวิตอยู่ในความบาป เราทราบจาก หนังสือ ผู้เผยพระวจนะน้อยเล่มอื่นๆ นะครับ ถึงความบาปของประชากรของพระองค์ หนังสือผู้เผยพระวจนะน้อยมีทั้งหมด 12 เล่ม หรือ 12 บท เริ่มต้นที่ โฮเชยา และจบลงที่ มาลาคี ตามธรรมเนียมของคนยิวแล้ว หนังสือผู้เผยพระวจนะน้อย ทั้งสิบสองเล่ม ถือว่าเป็นหนังสือเล่มเดียว ที่มีอยู่ 12 บท 12ผู้เผยพระวจนะน้อย โยเอลถือว่าเป็นบทที่สอง ต่อจากโฮเชยา
เราเห็นความบาปของยูดาห์ จากผู้เผยพระวจนะน้อย บทอื่นๆครับ ไม่ว่าจะเป็น ชีวิตที่เห็นความสำเร็จทางด้านเศรษฐกิจมาก่อนจริยธรรม ศีลธรรม การเอารัดเอาเปรียบ ขูดรีดคนที่อ่อนด้อยกว่า ความอยุติธรรมที่เกิดขี้นในสังคมจนกลายเป็นเรื่องปกติ ใครๆเขาก็ทำกัน การกราบไหว้รูปเคารพ รับเอาพระของชนชาติรอบข้าง มานมัสการบูชา แทนที่จะนมัสการพระยาห์เวห์ แต่เพียงผู้เดียวตามพันธสัญญา กลับปันใจให้กับพระอื่น เอาพระอื่นด้วย เอาพระยาห์เวห์ด้วย ในสมัยของกษัตริย์มนัสเสห์ ถึงขั้นนำพระต่างชาติมานมัสการในพระวิหาร
โยเอล บอกว่า หายนะ ครั้งนี้คือ สารน์เตือนภัย จากพระเจ้า ประชากรของพระเจ้า เวลานี้เปรียบเหมือนกับ คนที่กำลังสลึมสลือ อยู่ในความบาป โยเอลบทที่ 1 เรียก ประชากรของพระเจ้าว่า พวกขี้เมาเอ๋ย จงตื่นขึ้น ประชากรของพระเจ้าที่ยังมัวเมา ลุ่มหลงอยู่ในกิเลสตัณหา และความบาป
หายนะจากกองทัพฝูงตั๊กแตน เป็นเหมือนกับ การปลุกให้ตื่นขึ้น การเขย่าจากพระเจ้า ให้กลับมามีสติ เหมือนกับว่า เรากำลังหลับในในขณะที่ขับรถอยู่ และ รถกำลังพุ่งเข้าไปประสานงากับรถบรรทุกที่สวนมา
หายนะ ภัยพิบัติ จึงเป็นเหมือนกับเสียงแตรจากรถบรรทุกดังลั่น ที่คนขับรถบรรทุกกด เพื่อปลุกเราให้ได้สติจากการหลับใน ขณะที่รถกำลังมุ่งหน้าไปสู่ความพินาศ
พี่น้องครับ เราในฐานะประชากรของพระเจ้าในศตวรรษนี้ ก็ดำเนินชีวิตไม่แตกต่างจาก อิสราเอลในพระคัมภีร์โยเอลครับ เรารับเอา รูปเคารพ คือ ค่านิยมที่ว่างเปล่า จาก อาณาจักรของโลกนี้ มานมัสการแทนพระเจ้าเที่ยงแท้ เราเห็นสิ่งอื่นสำคัญกว่า มาก่อน พระเจ้า ในชีวิตของเรา ไม่ว่าจะเป็น ความสำเร็จ ความรักเงินทอง ปล่อยให้ค่านิยมที่ว่างเปล่าของโลกนี้ เข้ามาครอบงำความคิด บ่อยครั้งเราก็เมินเฉยกับคนที่ตกทุกข์ลำบาก เราเป็นเหมือนกับคนสลึมสลือ ยังไม่ตื่นนอนดี เราเป็นเหมือนกับคนขี้เมา ที่ขาดสติ เราเป็นเหมือนคนขับรถที่กำลังหลับในอยู่ จากการดำเนินชีวิตของเราที่อยู่ในความประมาท คริสเตียนยังหลงระเริงอยู่ในความบาป หารู้ไม่ว่า กำลังขับเคลื่อนชีวิตมุ่งไปสู่ความพินาศ
เมื่อเราถ่อมใจลง คุกเข่าต่อพระเจ้า เราเห็นการสำแดงจากพระเจ้า ที่เปิดเผยผ่านโยเอล ถึงหายนะในครั้งนี้ โยเอล บทที่ 2 เริ่มต้นด้วย “จงเป่าเขาสัตว์ในศิโยน” เป็นเหมือนกับเสียงแตรเตือนภัย เขาสัตว์นี้ส่วนใหญ่ ทำมาจาก เขาของแกะตัวผู้ ครับ โชฟาร์ เราลองมาฟังเสียงเป่าเขาสัตว์กันครับ
เสียงเป่าเขาสัตว์ ที่ปกติจะส่งเสียงเตือนภัยว่ากองทัพศัตรูกำลังเข้ามาใกล้ เสียงเป่าเขาสัตว์จากหอสังเกตการณ์ เสียงโชฟาร์
นอกจากเตือนให้ยูดาห์ กลับใจ กลับมาหาพระเจ้าแล้ว ยังมีมิติของความเร่งด่วนด้วยครับ เสียง โชฟาร์ เตือนยูดาห์ให้ “กลับใจ” ทันที เมื่อใดก็ตาม ที่ได้ยินเสียงเป่าเขาสัตว์ เสียงเตือนภัย ถ้าเรากำลังทำอะไรอยู่ ต้องหยุด และ เตรียมตัวให้พร้อมรับกับภัยที่กำลังจะมา ซึ่งในที่นี่คือ “กลับใจใหม่” ทันที อย่างเร่งด่วนที่สุด ไม่ผัดวันประกันพรุ่ง เพราะว่า วันแห่งพระยาห์เวห์ ใกล้เข้ามาแล้ว พระยาห์เวห์จะเป็นผู้ที่นำทัพเองเพื่อทำลายศัตรูของพระองค์ ในข้อ 11 “พระยาห์เวห์เปล่งพระสุรเสียงต่อหน้ากองทัพของพระองค์”
หายนะจากกองทัพฝูงตั๊กแตน คือ เสียงเป่าเขาสัตว์ ผู้ที่ได้ยินเสียงเตือนภัย นี้ ต้องหยุดจากความบาปที่ตนเองกำลังหลงระเริงอยู่ และ รีบกลับใจใหม่ “บัดเดี๋ยวนี้” เพื่อจะรอดพ้นจาก ความพินาศในวันแห่งพระยาห์เวห์ ที่กำลังใกล้เข้ามา ในข้อ 12 พระยาห์เวห์ตรัสว่า “...จงกลับมาหาเราด้วยสุดใจ ด้วยการอดอาหาร การร้องไห้ และการโอดครวญ จงฉีกใจของพวกเจ้า ไม่ใช่ฉีกเสื้อของเจ้า”
พี่น้องครับ พระคัมภีร์ข้อนี้สำคัญมากครับ เพราะเป็นครั้งแรกในโยเอล ที่พระยาห์เวห์ตรัสโดยพระองค์เอง พระคัมภีร์ฉบับแปล จะเน้นความสำคัญนี้โดยการใส่เครื่องหมายคำพูดนะครับ ในโยเอลตอนอื่นๆ พระยาห์เวห์ถูกกล่าวถึงในลักษณะบุคคลที่สาม แต่ในข้อนี้ครับ เป็นครั้งแรกที่โยเอลใช้เป็นคำสรรพนามบุรุษที่หนึ่ง และใช้ชื่อว่า พระยาห์เวห์ ซึ่งเป็นชื่อส่วนตัวของพระเจ้า ที่ทรงทำพันธสัญญากับประชากรของพระองค์ เพื่อที่จะย้ำเตือนกับประชากรของพระองค์ถึงพันธสัญญา ที่พระองค์ทรงกระทำกับประชากรของพระองค์ ในบทที่ 2 ข้อที่ 11-12
พระยาห์เวห์ตรัสว่า “จงกลับมาหาเราด้วยสุดใจ... จงฉีกใจของพวกเจ้า”
ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นกับยูดาห์ เป็นสัญญาณเตือนภัย ที่พระยาห์เวห์ เรียกร้องให้ยูดาห์ตอบสนอง ด้วยการ กลับมาหาพระเจ้าด้วยสุดใจ ... หายนะในครั้งนี้ พระเจ้าเตือนให้ ประชากรแห่งพันธสัญญาของพระองค์กลับมาหาพระองค์ คู่สัญญา อย่างสุดใจ และอย่างจริงใจ ไม่ปันใจให้พระอื่น หรือ สิ่งอื่นๆที่เรายึดไว้แทนพระเจ้า และกลับใจด้วยความเต็มใจ จากภายใน กลับมาหาพระเจ้า ด้วยหัวใจที่แตกสลาย “จงฉีกที่ใจภายใน ไม่ใช่เพียงฉีกเสื้อผ้าที่อยู่ภายนอก”
พี่น้องครับ ท่ามกลางหายนะ วิกฤตการณ์ ความหดหู่ ท้อแท้ใจ สิ้นเนื้อประดาตัว
โควิด 19 นำมาซึ่งความสิ้นหวัง ฝูงกองทัพตั๊กแตน นำมาซึ่งความหมดหวังในชีวิต ไม่มีอะไรเหลืออีกแล้ว
พระวจนะของพระเจ้า มาทันเวลาผ่าน โยเอล ที่เรียกร้องให้เรากลับมาหาพระเจ้า เพื่อรับเอาความหวังและ อนาคต ที่พระเจ้าจัดเตรียมไว้ให้สำหรับประชากรของพระองค์ที่กลับมาหาพระองค์
เราพบ “ความหวัง” อย่างน้อย สามสิ่งที่พระยาห์เวห์สัญญาว่าจะกระทำ หลังจากที่ประชากรแห่งพันธสัญญาของพระองค์ กลับใจอย่างแท้จริง และ กลับมาหาพระเจ้าเที่ยงแท้ กลับมาพึ่งพาพระเจ้าด้วยหัวใจที่แตกสลาย
พบในพระคัมภีร์ที่อ่านใน [เช้า / บ่าย] วันนี้ครับ ในข้อที่ 18-27 ถ้าเราสังเกต อ่านอย่างละเอียด อีกครั้งในโยเอล ครับ ที่ พระยาห์เวห์ ใช้เป็นคำสรรพนามบุรุษที่หนึ่ง คือ พระยาห์เวห์กำลังเป็นผู้ที่ตรัสเอง เป็นถ้อยคำจากปากของพระยาห์เวห์ ทรงประทาน/ความหวัง ท่ามกลางสถานการณ์ที่สิ้นหวัง คำมั่นสัญญาของพระองค์ต่อ คนที่กลับใจ กลับมาหาพระเจ้า
(1) พระเจ้าจะทรงสถิตอยู่กับประชากรของพระองค์ ในข้อ 27 “...เราเองอยู่ท่ามกลางอิสราเอลและเรานี่แหละคือพระยาห์เวห์ เป็นพระเจ้าของเจ้า ไม่มีองค์อื่นอีก...”
พวกเขาไม่ต้องเผชิญความยากลำบากตามลำพัง แต่มีพระเจ้าประทับอยู่ด้วย พระเจ้าไม่ได้จำกัดพระองค์เองด้านสถานที่ ประทับอยู่เฉพาะในพระวิหารที่เยรูซาเล็มเท่านั้น แต่เป็นพระยาห์เวห์ พระเจ้าที่ประทับอยู่ท่ามกลางประชากรของพระองค์
(2) พระองค์จะทรงกำจัดศัตรูทั้งสิ้นออกไป ในข้อ 20 “เราจะถอนศัตรูทางเหนือให้ห่างไกลจากพวกเจ้า และไล่มันไปในแผ่นดินแห้งแล้งและร้างเปล่า ...”
ไม่มีประโยชน์ที่จะทรงประทานความอุดมสมบูรณ์กลับมาอีกครั้ง ถ้าศัตรูของพวกเขายังคงอยู่ คือ กองทัพฝูงตั๊กแตน พระองค์จะทรงกำจัดศัตรูทั้งสิ้นของประชากรของพระองค์ เพื่อที่พวกเขาจะอยู่อย่างมีชัยชนะ และสันติสุข
(3) พระองค์จะทรงประทานความอุดมสมบูรณ์ ชีวิตที่เกิดผล ชีวิตที่ครบบริบูรณ์ ในข้อ 19, 25 -26
“นี่แน่ะ เราจะส่งข้าว เหล้าองุ่น และน้ำมันให้แก่เจ้า เจ้าทั้งหลายจะอิ่มหน่ำสำราญ... เราจะชดเชยปีเดือนที่ตั๊กแตนได้กินเสียให้แก่พวกเจ้า ... เจ้าทั้งหลายจะรับประทานอย่างบริบูรณ์และอิ่มหนำ...”
ความหวัง ท่ามกลางสถานการณ์ที่สิ้นหวัง สามสิ่งที่พระเจ้าจะกระทำ เป็นพระสัญญาของพระเจ้า เมื่อเรากลับใจใหม่ กลับมาหาพระเจ้าเที่ยงแท้ในชีวิตของเรา
พี่น้องครับ ข่าวดีครับ ความหวังในพระสัญญาของพระเจ้าในโยเอล ทั้งสามข้อ ได้สำเร็จแล้วในองค์พระเยซูคริสต์ครับ
(1) พระเจ้าสถิตอยู่กับประชากรของพระองค์ - พระเยซูทรงเสด็จมารับสภาพมนุษย์ ทรงเป็นพระเจ้า ผู้ประทับอยู่ท่ามกลางประชากรของพระองค์ องค์อิมมานูเอล พระเจ้าสถิตอยู่กับเรา มัทธิว บทที่ 28 พระสัญญาว่า “พระองค์จะทรงอยู่กับบรรดาสาวกของพระองค์จนกว่าจะสิ้นยุค”
(2) พระองค์ทรงกำจัดศัตรูของประชากรของพระองค์ - ที่ไม้กางเขน พระองค์ทรงมีชัยชนะเหนือความบาป และมารซาตาน ศัตรูตัวฉกาจของเรา และ สามวันหลังจากนั้น พระเยซูคริสต์ทรงประกาศชัยชนะเหนือความตาย เหล็กในสุดท้ายของความบาป
(3) ชีวิตที่ครบบริบูรณ์ และเกิดผล - พระเยซูทรงประทานชีวิตที่ครบริบูรณ์ ชีวิตที่เกิดผล ยอห์น 10: 10 พระเยซูตรัสมา “เรามาเพื่อพวกเขาจะได้ชีวิตและจะได้อย่างครบบริบูรณ์”
ยอห์น 15:5 “พระเยซูเป็นเถาองุ่น คนที่ติดสนิทอยู่กับเราและ เราติดสนิทอยู่กับเขา คนนั้นจะเกิดผลมาก...”
พี่น้องครับ New Normal ในปัจจุบัน ที่เป็นผลจากกองทัพฝูงตั๊กแตน จากไวรัสโคโรน่า 2019 ไม่ใช่ New Normal ที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้ในพระคัมภีร์ครับ เราจึงมีความหวังใจ ในพระสัญญาของพระเจ้าครับ ว่า วันหนึ่ง เมื่อ พระคริสต์เสด็จกลับมา เราไม่ต้องใส่หน้ากาก ไม่ต้องเว้นระยะห่าง อีกต่อไป เพราะศัตรูของเรา ไม่ว่าจะเป็นไวรัส โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ก็จะไม่มีอีกต่อไป เพราะแม้แต่ความตาย พระเยซูก็ทรงมีชัยชนะแล้ว อาเมนมั้ยครับ !
ดังนั้น คำถามที่สำคัญสำหรับพี่น้องใน วันนี้ คือ “กองทัพฝูงตั๊กแตน” ในชีวิตของพี่น้องคืออะไรครับ ?
และเรามีมุมมอง กับ กองทัพฝูงตั๊กแตน อย่างไร ? เรายังมองมัน เหมือนกับมองภาพวาดของลิปปี้ด้วยความหยิ่งของมนุษย์ที่มองในระดับสายตา หรือ มองภาพวาดนั้นด้วย การคุกเข่าลง และเงยหน้าขึ้นเพื่อแสวงหามุมมองจากพระเจ้า ?
อะไรคือ กองทัพฝูงตั๊กแตน ในชีวิตของเราครับ ?
ประสบการณ์ การตีสอนจากพระเจ้า ในชีวิตของเรา เพื่อที่จะเขย่า เราให้กลับใจใหม่ ไม่หลงระเริงในความบาป พระเจ้าผู้ทรงไม่ประนีประนอมกับความบาปในชีวิตของเรา ในขณะที่พระเจ้าก็ทรงพระคุณ พระเมตตา ให้เรา กลับมาหาพระเจ้า พึ่งพาพระคุณ การไถ่และการช่วยกู้ผ่านองค์พระเยซูคริสต์
สำหรับบางคน กองทัพฝูงตั๊กแตน คือ อดีตที่ขมขื่น ที่ยังคงตามมาหลอกหลอนชีวิตของเราในปัจจุบัน
คริสเตียนบางคน กองทัพฝูงตั๊กแตน อาจหมายถึง ประสบการณ์การล้มลงในความบาป ประสบการณ์หลงหาย ทิ้งพระเจ้าไป ติดตามความสำเร็จที่โลกนี้หยิบยื่นให้ ติดตามเงินทอง แสวงหาสิ่งอื่น ให้ความสำคัญกับสิ่งต่างๆเหล่านี้มากกว่า พระเยซู แล้วเมื่อพระเจ้านำสิ่งต่างๆเหล่านี้ที่เราให้ความสำคัญมากกว่าพระเจ้าออกไป ไม่ว่าอาชีพการงาน ทรัพย์สินเงินทอง ครอบครัว เราแทบล้มทั้งยืน สับสน ทำอะไรไม่ถูก ท้อแท้ หดหู่ สิ้นหวัง และ อับอาย
บางคน กองทัพฝูงตั๊กแตน อาจหมายถึง ชีวิตที่พังพินาศ เพราะการเสพติดในความบาป ติดยาเสพติด ติดการพนัน ติดเหล้า ต้องสูญเสียการงาน อาชีพ สูญเสียคนที่รัก ลูก ภรรยา ความสัมพันธ์ในครอบครัว และ ชื่อเสียง
บางคน กองทัพฝูงตั๊กแตน อาจเป็นความเจ็บป่วยบางอย่าง ความเจ็บป่วยก็เป็นสัญญาณเตือนจากพระเจ้าว่าเราไม่สามารถอยู่บนโลกนี้ได้ตลอดไป หากเราคุกเข่าลง และมองความเจ็บป่วยของเราด้วยหัวใจที่ถ่อมลง ให้เรากลับมาหาพระเจ้า กลับสู่ความรักดั้งเดิมที่เราตกหล่นไป และเราสามารถมอบถวายเวลาในชีวิตที่เหลืออยู่เพื่อแผ่นดินของพระเจ้า
พี่น้องครับ ไม่ว่า วันนี้ กองทัพฝูงตั๊กแตน จะเป็นสิ่งใด ก็ตาม ท่านยังมีความหวัง คำเทศนาในวันนี้สำหรับพี่น้องคนนั้น ครับ และผมอยากจะอธิษฐานเผื่อท่าน ว่า ท่านยังมีความหวัง และ อนาคต ครับ
กองทัพฝูงตั๊กแตน เป็นเพียงสัญญาณเตือนภัย ที่พระเจ้าส่งมา เพราะว่า พระเจ้าทรงรักท่าน และ ปรารถนาให้ท่านกลับตัว กลับใจใหม่ ทันที อย่างเร่งด่วน ไม่ผลัดเป็นวันพรุ่งนี้ แต่ กลับใจเดี๋ยวนี้
ให้ท่าน ฉีกใจของท่านต่อพระองค์ ให้เรา มีหัวใจ มีชีวิตที่ แตกสลาย กับพระเจ้า เพื่อที่พระเจ้าจะสร้างเราขึ้นใหม่อย่างงดงาม เพื่อที่เราจะถ่อมใจเรา หันกลับมาหาพระเจ้า ผู้ทรงรักเรา และ ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่เพื่อเรา คือ ส่งพระเยซูคริสต์ มาสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน เพื่อไถ่พี่น้องออกจากทาสของความบาป และรับความหวัง และอนาคต ชีวิตใหม่ที่พบได้ในพระคริสต์ ผู้ทรงเป็นขึ้นจากความตายแล้ว และทรงพระชนม์อยู่ อาเมนมั้ยครับ เรารับ พระสัญญาของพระเจ้าในพระคริสต์
พระเจ้าผู้ทรงสถิตอยู่กับเราในทุกสถานการณ์
พระองค์ผู้ทรงทำลายศัตรูของเราแล้ว คือความบาป มาร และความตาย
พระเจ้าผู้ทรงประทานชีวิตใหม่ให้กับเรา ชีวิตที่ครบบริบูรณ์ ชีวิตที่เกิดผล
ให้เราร่วมใจกันอธิษฐานครับ
สาธุการพระบิดาผู้ทรงเมตตา พระเจ้าผู้ทรงครอบครอง อธิษฐานเป็นพิเศษสำหรับบางคนในที่นี่ ที่กำลังหมดหวัง หดหู่ ท้อแท้ กับ ฝูงกองทัพตั๊กแตน ที่เข้ามาทำลายล้างทุกอย่างในชีวิต ขอพระองค์นำมาซึ่งการกลับใจใหม่ กลับมาหาพระองค์ด้วยหัวใจที่แตกสลาย และความถ่อมใจ พระองค์ผู้ทรงสัตย์ซื่อ ทรงพระคุณและเมตตา ขอประทานความหวังตามพระสัญญาที่เขาคนนั้น สามารถพบได้ในพระเยซูคริสต์ ขอทรงชดเชยปีเดือนที่ต้องเขาต้องเสียไปจากกองทัพฝูงตั๊กแตน พระเจ้าแห่งการรื้อฟื้น ขอพระองค์ทรงสร้างชีวิตของเขาขึ้นใหม่ ให้เป็นชีวิตที่งดงามเพื่อพระองค์ รับการเปลี่ยนแปลงชีวิต ติดตามพระเยซูตลอดวันคืนชีวิตของเขา ลูกอธิษฐานในพระนามของพระเยซู คริสต์ อาเมน
Related Media
See more
Related Sermons
See more
Earn an accredited degree from Redemption Seminary with Logos.