พระเจ้าทรงเป็นความรัก

เดินในความสว่าง  •  Sermon  •  Submitted
0 ratings
· 396 views
Notes
Transcript
“พระเจ้าทรงเป็นความรัก”
คริสตจักรแองลิกัน ลาดกระบัง/ ไคร้สตเชิช กรุงเทพ
วันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม 2021
1ยอห์น 4: 7-21
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Word Count 3,588 ; Time 30 minutes
พระเจ้าสถิตกับท่าน [และสถิตกับท่านด้วย]
พี่น้องครับ เรายังอยู่ในซีรี่ส์คำเทศนา “เดินในความสว่าง” จากจดหมายฝาก 1 ยอห์น และ ยูดา
ในคำเทศนาครั้งที่แล้ว “ดำเนินชีวิตในความสว่าง” อัครทูตยอห์นบอกว่า พระเจ้าทรงเป็นความสว่าง ครับ ในบทที่ 1 ข้อที่ 5
“...พระเจ้าทรงเป็นความสว่าง และความมืดในพระองค์ไม่มีเลย”
และข้อ 7 “...เราเดินอยู่ในความสว่าง เหมือนอย่างที่พระองค์สถิตอยู่ในความสว่าง...”
“ลักษณะการดำเนินชีวิตในความสว่าง” มีอยู่สามประการ คือ มีความเชื่อที่ถูกต้อง ดำเนินชีวิตอยู่ในความชอบธรรม และ ดำเนินชีวิตในความรัก
ความเชื่อที่ถูกต้อง การวางใจในพระคริสต์ จะนำมาซึ่งความหวังในชีวิตไม่ว่าเราจะเผชิญกับทุกข์ยากลำบากในชีวิต
ดำเนินชีวิตในความชอบธรรม ไม่ได้หมายความว่าปราศจากบาป เราจะระมัดระวังในการดำเนินชีวิต ยำเกรงพระเจ้า รับการชำระบาปที่พบแล้วที่ไม้กางเขน ผ่านการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูคริสต์ ตามความเชื่อที่ถูกต้องในข้อที่ 1
ประการสุดท้าย ดำเนินชีวิตในความรัก ถ้าเรามีเพียงแค่สองข้อแรก เราก็ไม่ต่างอะไรกันคนที่ถือศาสนา มีหลักข้อเชื่อ มีความเข้า และ ดำเนินชีวิตตามกฎเกณฑ์ กฎบัญญัติ เราก็เหมือนกับมานับถือศาสนา มาเปลี่ยนศาสนาใหม่ ศาสนาคริสต์ ศาสนาของพระเยซู แต่ไม่รู้จักพระเยซู ทำทุกอย่างเหมือนหุ่นยนต์ที่ไม่มีหัวใจ ทำทุกสิ่งตามที่ถูกตั้งโปรแกรมไว้ ไม่มีหัวใจของพระเจ้า ขาดความรัก ไม่รักเพื่อนบ้าน ไม่ได้รักพี่น้องของเรา เราอาจจะมีแนวโน้มที่ดำเนินชีวิตเหมือน “ฟาริสี” ที่พระเยซูทรงตำหนิ เป็นเหมือนฟารีสีตัวน้อยๆ เดินอยู่ในคริสตจักร
ทบทวนคำเทศนา ครั้งที่แล้วสั้นๆนะครับ ก่อนที่ผมจะไปต่อใน เช้า / บ่าย วันนี้ครับ
พี่น้องครับ รูปแบบการเขียน ของ 1ยอห์น ถ้าเราอ่านจบตลอดทั้งเล่ม สั้นๆนะครับ มีเพียง 5 บท เราจะพบความสวยงามอย่างหนึ่งคือ อัครทูตยอห์น เขียนหัวข้อที่ท่านต้องการจะสื่อเป็นเหมือนกับวงกลม ท่านไม่ได้เขียนเป็นแบบเส้นตรง คือให้จบทีละหัวข้อ ท่านเขียนเป็นแบบวงกลม กลับมาใหม่ที่หัวข้อเดิม แต่ขยายความในหัวข้อนั้นมากยิ่งขึ้น เป็นชั้นๆ
จดหมายฝากทั้ง 5 บท ท่านพูดอยู่ สามหัวข้อที่สำคัญ ในการดำเนินชีวิตในความสว่างคือ ดำเนินชีวิตอยู่ใน ความเชื่อ ความชอบธรรม และ ความรัก
ท่านเริ่มต้นในบทที่ 1 ด้วย ความเชื่อที่ถูกต้อง และท่านจบจดหมายฝากของท่านด้วยความเชื่อที่ถูกต้อง กลับมาจุดๆเดิมในบทที่ 5 ที่ขยายความมากขึ้น ซึ่งจะเป็นคำเทศนาสุดท้ายสำหรับ 1 ยอห์น ในวันอาทิตย์หน้า ก่อนที่เราจะเริ่ม จดหมายฝากยูดาห์ในวันอาทิตย์ถัดไป
ในบทที่ 1 ต่อเนื่องมาถึงบทที่ 2 ท่านเขียนถึง ขยายความหัวข้อ “เดินในความชอบธรรม” ท่านพูดถึงความบาป ดำเนินชีวิตอยู่ในความมืด การชำระให้พ้นจากความบาป บัญญัติใหม่ อย่ารักโลก
ในบทที่ 2 ต่อมา ท่านกลับมาพูดถึง ความเชื่อที่ถูกต้องอีกครั้ง ศัตรูของพระคริสต์ หรือที่เรามักรู้จักกันว่า AntiChrist ปฎิปักษ์ของพระคริสต์ และท่านขยายหัวข้อนี้ อีกครั้งในบทที่ 4 ตอนต้น การวินิจฉัยวิญญาณต่างๆ ที่คำเทศนาครั้งที่แล้ว พูดถึง ลัทธิเทียมเท็จในปัจจุบัน
ในบทที่ 3 ท่านก็กลับมาขยายความใน หัวข้อ ดำเนินชีวิตในความรักอีกครั้ง พูดถึง จงรักกันและกัน ซึ่งก็เชื่อมโยงมาถึง คำเทศนาในวันนี้ครับ พระเจ้าเป็นความรัก ใน บทที่ 4 ตั้งแต่ ข้อที่ 7-21 ขยายความ การดำเนินชีวิตในความรัก ที่ท่านกล่าวไว้แล้วในบทที่ 3 จงรักกันและกัน ท่านอธิบายเพิ่มเติม ในพระคัมภีร์ตอนนี้ว่า ทำไม เราจึง ต้องรักและกัน
พี่น้องครับ แต่ก่อนที่ผมจะเข้าไปในรายละเอียด พระเจ้าทรงเป็นความรัก และ คำสั่งที่ให้เรารักซึ่งกันและกัน สำหรับ อัครทูตยอห์นแล้ว ต้องอยู่ในบริบท ของ ความจริง และ ความชอบธรรมนะครับ มีกรอบของความเชื่อที่ถูกต้อง และ ดำเนินชีวิตที่ชอบธรรมกำกับ ความรัก ด้วยนะครับ เพราะลัทธิเทียมเท็จ เขาเหล่านั้นก็รักกันและกันด้วยความจริงใจนะครับ แต่เป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง
วิถีชีวิตแบบรักร่วมเพศ รักเพศเดียวกัน หรือ การล่วงประเวณี เขาก็รักกันและกัน ด้วยความจริงใจครับ แต่เป็นการดำเนินชีวิตที่ไม่ชอบธรรม ไม่ได้ยำเกรงพระเจ้า
ความเชื่อที่ถูกต้อง ชีวิตที่ชอบธรรม และดำเนินชีวิตในความรัก ต้องไปด้วยกันและถ่วงดุล และ ตรวจสอบซึ่งกันและกัน ไม่เอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง นี่คือสิ่งที่ยอห์น บอกว่า คือการดำเนินชีวิตในความสว่าง
พี่น้องครับ พระคัมภีร์ใน 1 ยอห์น บทที่ 4 ใน เช้า/ บ่าย วันนี้ ยอห์นบอกว่า “พระเจ้าทรงเป็นความรัก” พบในข้อ 16
“ฉะนั้นเราจึงรู้และวางใจในความรักที่พระเจ้าทรงมีต่อเรา พระเจ้าทรงเป็นความรัก และผู้ที่อยู่ในความรักก็อยู่ในพระเจ้าและพระเจ้าก็อยู่ในคนนั้น”
วันนี้ พระคำพระเจ้าจะมาโฟกัสที่ประการที่สาม คือ ดำเนินชีวิตความรัก เพราะว่าพระเจ้าทรงเป็นความรัก
“ผู้ที่ดำเนินชีวิตอยู่ในความรัก ก็ดำเนินชีวิตอยู่ในพระเจ้า และ พระเจ้าก็อยู่ในคนนั้น”
คำว่า “พระเจ้าทรงเป็นความรัก” อัครทูตยอห์น หมายถึงอะไร
ในข้อที่ 7 ยอห์น อธิบายว่า “...ความรักมาจากพระเจ้า...” พระเจ้าทรงเป็นแหล่งแห่งความรัก ความรักในโลกนี้ทั้งผู้เชื่อหรือผู้ไม่เชื่อ ล้วนมาจากพระเจ้า เพราะ พระเจ้าทรงเป็นความรัก
ความรักของหนุ่มสาว ความรักระหว่างสามีภรรยา ความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูก ความรักพี่น้อง ปู่ย่า ตายาย กับหลาน ความรักในครอบครัว เครือญาติ ความรักระหว่างเพื่อน ความรักระหว่างหัวหน้ากับลูกน้อง คุณครูกับนักเรียน ล้วนมาจากพระเจ้า ผู้ทรงเป็นแหล่งแห่งความรัก น่าเสียดายที่ความรักเหล่านี้ ที่เราเห็นส่วนใหญ่ถูกบิดเบือน และตกจากมาตรฐานของพระเจ้า หลังจากมนุษย์ล้มลงในความบาป ในปฐมกาล บทที่ 3 เราเห็นข่าวการหย่าร้าง ความไม่ซื่อสัตย์ในชีวิตแต่งงาน ความรุนแรงในครอบครัว นักเรียนถูกบูลลี่ในโรงเรียน จากเพื่อนนักเรียน หรือแม้กระทั่งจากคุณครูในโรงเรียน ความรักเพื่อน รักพวกพ้อง จนไม่คำนึงถึงความถูกต้องและมาตรฐานจริยธรรม
พี่น้องที่รักครับ เราจะเข้าใจ “ความรักที่แท้จริง” ได้ เราต้องเริ่มต้นที่พระเจ้าก่อนครับ เพราะพระองค์ทรงเป็นแหล่งกำเนิดของความรัก เริ่มต้นที่ ความเข้าใจที่ถูกต้องในพระลักษณะที่พระองค์ทรงเป็น และในสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำ
พระเจ้าทรงเปิดเผย ความรักที่ครบบริบูรณ์ ผ่าน การสำแดงพระองค์เองใน “พระเจ้าตรีเอกานุภาพ” พระบิดา พระบุตร และ พระวิญญาณบริสุทธิ์ ใน ข้อ 12, 13-14
“...ความรักของพระองค์ก็สมบูรณ์อยู่ในเรา...เพราะพระองค์ประทานพระวิญญาณของพระองค์เองแก่เรา (พระเจ้า พระวิญญาณบริสุทธิ์) และเราได้เห็นและเป็นพยานว่า พระบิดา (คือพระเจ้าพระบิดา) ได้ทรงใช้พระบุตร (พระเจ้าพระบุตร พระเยซู) มาเป็นพระผู้ช่วยโลกให้รอด”
พระเจ้าทรงเป็นความรัก
ความรัก “ครบบริบูรณ์” พบในองค์ตรีเอกานุภาพ
พระเจ้าทรงเป็นความรัก ความรักสมบูรณ์อยู่แล้วในพระองค์ และสำแดงให้เราเห็นใน ความล้ำลึกของ พระเจ้าองค์ตรีเอกานุภาพ ที่เกินความเข้าใจของเรา เพราะความรักต้องมีมากกว่าหนึ่งคน เราไม่สามารถบอกว่าเรามีความรักได้ ถ้าเรารักแต่ตัวเราเอง นั้นไม่ใช่ความรัก เราเห็นความรักสมบูรณ์แบบท่ามกลางความสัมพันธ์สนิทของ พระเจ้าพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ ความรักที่เอ่อล้นออกมา ใน การทรงสร้างของพระองค์ เราเห็นความรักของพระองค์ ในทุกสิ่งที่พระองค์ทรงสร้าง ธรรมชาติ ป่าไม้ ภูเขา ลำธาร ท้องทะเล และ จักรภพที่ไกลโพ้น และพบในสุดยอดอัญมณีแห่งการทรงสร้างของพระองค์ คือ พระองค์ทรงสร้างมนุษย์ ตามพระฉายาของพระองค์ ความรักที่ครบบริบูรณ์ สามารถพบได้ในสิ่งทรงสร้างของพระองค์ คือ มนุษย์ ผู้ทรงเป็นพระฉายาของพระเจ้า น่าเสียดายที่ พระฉายาที่บัดนี้ถูกทำให้บิดเบี้ยว เพราะผลของความบาปที่เป็นมลทิน แต่เรายังคงเห็นร่องรอย ของความรักนี้ ในสิ่งทรงสร้างของพระองค์ และในมนุษย์
ความรักเริ่มต้นในสากลจักรวาลนี้ จากพระเจ้าองค์ตรีเอกานุภาพ ผู้ทรงเป็นแหล่งแห่งความรัก ทรงเป็นต้นกำเนิดของความรัก สำแดงออกมา อย่างน้อย สามประการ ในพระคัมภีร์ตอนนี้ครับ เพื่อให้เราได้เอาเป็นแบบอย่าง ในการรักซึ่งกันและกัน
(1) “ความรักที่ครบบริบูรณ์” นี้ เรารับมาจากพระเจ้าก่อน
ในข้อที่ 7
“ท่านที่รักทั้งหลาย ขอให้เรารักกันและกัน เพราะว่า ความรักมาจากพระเจ้า และทุกคนที่รักก็เกิดมาจากพระเจ้า และรู้จักพระเจ้า”
ถ้าอ่านในภาษาเดิม เราจะรู้ว่า อัครทูตยอห์น มีการเล่นคำ ท่านเริ่มต้น ประโยค ว่า “ท่านที่รักทั้งหลาย ขอให้เรารักกันและกัน” Ἀγαπητοί Agapētoi ἀγαπῶμεν agapōmen
มาจาก ความรักแบบพระเจ้า อากาเป้
อากาเป้Toi ภาษาไทยแปลว่า “ท่านที่รักทั้งหลาย” หมายถึง พี่น้องทั้งหลาย ที่ “ได้รับความรัก Agape” พี่น้องทั้งหลายที่ “ถูกรักแบบอากาเป้” มาแล้ว ขอให้ พี่น้องคนนั้นรักแบบ Agape ต่อซึ่งกันและกันด้วย หรือ Agapomen
และในข้อที่ 19 ยอห์นเขียนอธิบายเพิ่มเติมว่า “เรารักก็เพราะพระองค์ทรงรักเราก่อน”
ความรักแบบ Agape นี้เป็นความรักที่บริสุทธ์ของพระเจ้า ที่พระองค์ทรงทำให้เป็นแบบอย่างกับเรา พบในข้อที่ 13 และ 14 แผนงานความรอดของพระเจ้า ที่ริเริ่มจากพระเจ้าก่อน ไม่ใช่มนุษย์ พระเจ้าพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ ต่างมีส่วนร่วมกัน “...ความรัก (อากาเป้) ของพระองค์ก็สมบูรณ์อยู่ในเรา...เพราะพระองค์ประทานพระวิญญาณของพระองค์เองแก่เรา (พระเจ้า พระวิญญาณบริสุทธิ์) และเราได้เห็นและเป็นพยานว่า พระบิดา (คือพระเจ้าพระบิดา) ได้ทรงใช้พระบุตร (พระเจ้าพระบุตร พระเยซู) มาเป็นพระผู้ช่วยโลกให้รอด”
เรารับ ความรักจากพระเจ้าก่อน ผู้ทรงเป็นแหล่งแห่งความรัก เพื่อที่จะเราจะสามารถหยิบยื่นความรักจากพระเจ้า ให้กับพี่น้องของเราได้ครับ ความรักที่ครบบริบูรณ์ ความรักที่บริสุทธิ์ ปราศจากความเคลือบแคลงใดๆ ความรักที่อดทนนาน ความรักที่พร้อมจะหยิบยื่นให้แม้พี่น้องคนนั้นไม่ค่อยน่ารักกับเรา อาเมนนะครับ
ถ้าความสัมพันธ์เราถูกต้องกับพระเจ้า รักพระเจ้า เราจะสามารถอดทนรักคนที่ไม่น่ารักได้
ใน 1ยอห์น 4: 20-21 “ถ้าใครกล่าวว่า ข้าพเจ้ารักพระเจ้า แต่ใจยังเกลียดชังพี่น้องของตน เขาเป็นคนพูดมุสา เพราะว่าผู้ที่ไม่รักพี่น้องของตนที่มองเห็นแล้ว จะรักพระเจ้าที่มองไม่เห็นไม่ได้ 21พระบัญญัตินี้เราได้มาจากพระองค์ (คือพระเยซูคริสต์) คือให้คนที่รักพระเจ้านั้นรักพี่น้องของตนด้วย”
มีเพียงพระเจ้าเท่านั้นครับ ที่จะประทานความรักให้กับเราได้ เพราะพระองค์ทรงเป็นความรัก ให้เราเข้าหาพระองค์ รับความรักจากพระเจ้า เพื่อที่เราจะรักพี่น้อง และอดทนกับพี่น้องที่ไม่น่ารักได้ เหมือนที่เรารับความรักจากพระเจ้าในชีวิตของเรา พระเจ้าทรงรักและอดทนนานในชีวิตของเรา ความรักที่ยังคงให้โอกาสเสมอในการกลับใจใหม่ พระเจ้าทรงรัก กริ้วช้า และอดทนนาน และการตีสอน พิพากษาเป็นของพระองค์ ในเวลาของพระองค์
พี่น้องครับ ชีวิตอธิษฐาน ภาวนากับพระเจ้า มีความสำคัญมากครับ เวลาคุณภาพที่เราเข้ามาแสวงหาการทรงสถิตของพระเจ้า ชีวิตภายในที่หยั่งรากลึกในพระเจ้า เพื่อที่เราจะรับความรัก กำลังจากพระเจ้าที่จะสามารถ อดทน ให้อภัย พี่น้องที่ไม่น่ารักได้
ประการที่ 1 ครับ เรารักก็เพราะพระองค์ทรงรักเราก่อน Agapetoi Agapomen อาเมน
ความรักของพระเจ้าองค์ตรีเอกานุภาพ ไม่เป็นเพียงแค่คำพูด แต่สำแดงออกเป็นการกระทำ แสดงออกเป็นความเสียสละ พระบิดาทรงสละพระบุตรลงมารับสภาพมนุษย์ พระบุตรยอมตามน้ำพระทัยพระเจ้าพระบิดาทำให้แผนการไถ่สำเร็จ พระเจ้าพระวิญญาณบริสุทธิ์อยู่ในเราผู้เชื่อ เพื่อเปิดตาใจเราให้เห็นความจริงนี้ ได้สัมผัสความรักนี้ในหัวใจของเรา และประทานกำลังให้เราดำเนินชีวิตใหม่ ชีวิตที่สะท้อน พระฉายาของพระเจ้า ประการที่สองครับ
(2) ความรัก สำแดงออกใน “การเสียสละ”
ในบทที่ 3 ข้อที่ 18 ยอห์น จึงกล่าวว่า “ลูกทั้งหลายเอ๋ย อย่าให้เรารักกันด้วยคำพูดและด้วยปากเท่านั้น แต่จงรักกันด้วยการกระทำและด้วยความจริง”
พี่น้องครับ ความรักของพระเจ้าตรีเอกานุภาพ แสดงออกมาใน แผนงานการไถ่ รักที่เสียสละ สำแดงออกเป็นการกระทำ ในข้อที่ 9 และ 10
“ความรักของพระเจ้าก็เป็นที่ประจักษ์แก่เราโดยข้อนี้ คือ พระเจ้าทรงใช้พระบุตรองค์เดียวของพระองค์เข้ามาในโลก เพื่อเราจะได้ดำรงชีวิตโดยพระบุตร ความรักที่ข้าพเจ้าพูดถึงนี้ไม่ใช่ที่เรารักพระเจ้า แต่ที่พระองค์ทรงรักเรา และทรงใช้พระบุตรของพระองค์มา เพื่อเป็นเครื่องบูชาลบบาปของเรา”
แผนการความรอด ให้เรา ได้กลับมาพบตัวตนที่แท้จริงของเรา ช่วยกู้สถานะดั่งเดิมของเราก่อนที่จะล้มลงในความบาป คือ ตามพระฉายาของพระเจ้า เพื่อที่มนุษย์จะสามารถรักพระเจ้า และรักพี่น้องได้ด้วยความรักที่ครบบริบูรณ์ของพระเจ้า
ขอบคุณพระเจ้า เราเห็นความรักแบบนี้ ในชีวิตของผู้เชื่อในคริสตจักรเช่นกัน ในช่วงโควิดระบาด เราเห็นภาพพี่น้องที่มาช่วยกัน ถวายเงินสำหรับช่วยเหลือสมาชิก และครอบครัวของสมาชิกที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 สมาชิกที่ต้องกักตัว รักษาตัว สมาชิกที่มาช่วยกันจัดหา ซื้อยา ของใช้ที่จำเป็นสำหรับถุงปันรัก สมาชิกที่เสียสละเวลา ติดตามประสานงานเพื่อให้ได้รับการรักษา สั่งอาหาร ให้ไปส่งพี่น้องที่กักตัว ภาพความรักของพ่อที่ต้องการจะกอดลูกน้อยที่ติดโควิด โดยไม่รังเกียจ หรือกลัวใดๆ ภาพของการเสียสละเวลา แบ่งปันเพื่อพาสมาชิกไปรับการฉีดวัคซีน ความรัก เสียสละเหล่านี้ สะท้อนถึงภาพ ความรัก ที่สำแดงออกเป็น การเสียสละ สำแดงออกเป็นการกระทำ เหมือนอย่างที่พระเจ้าทรง รักอย่างเสียสละเพื่อเรา
วันนี้ เราเห็นความรัก ที่เสียสละ มั้ยครับ เราได้สำแดง ความรัก ที่เสียสละ กับพี่น้องของเราบ้างมั้ยครับ
สองประการแล้วนะครับ ประการที่ 1 (1) “ความรักที่ครบบริบูรณ์” นี้ เรารับมาจากพระเจ้าก่อน เรารักก็เพราะพระองค์ทรงรักเราก่อน Agapetoi Agapomen และประการที่ (2) ความรัก สำแดงออกใน “การเสียสละ” สำแดงออกเป็นการกระทำ
(3) ความรัก สำแดงออกโดย “ปราศจากความกลัว”
พบในข้อที่ 17-18
“ความรักของเราจึงสมบูรณ์ในข้อนี้ เพื่อเราจะมีความมั่นใจในวันพิพากษา เพราะว่าพระองค์ทรงเป็นเช่นไร เราในโลกนี้ก็เป็นเช่นนั้น ในความรักนั้นไม่มีความกลัว แต่ความรักที่สมบูรณ์นั้นก็ขับไล่ความกลัวออกไปเสีย เพราะความกลัวเกี่ยวข้องกับการลงโทษและผู้ที่กลัวก็ยังไม่มีความรักที่สมบูรณ์”
ไม่มีที่ว่างในหัวใจของผู้เชื่อสำหรับ “ความกลัว” เพราะหัวใจของเรา เต็มล้น และเอ๋อล้นไปด้วย ความรักที่ครบบริบูรณ์ของพระเจ้าในชีวิตเรา ยอห์นบอกว่า “พระองค์ทรงเป็นเช่นไร เราในโลกนี้ก็เป็นเช่นนั้น”
พระเจ้าทรงเป็นความรัก และเราได้รับความรักจากพระเจ้าในชีวิตของเรา เราจึงดำเนินชีวิตนี้ได้โดยปราศจากความกลัว
เราไม่ต้องดำเนินชีวิตอยู่ในความกลัว เมื่อความรักพระเจ้าอยู่ในชีวิตของเรา เพราะพระเยซูคริสต์ได้ทรงไถ่เราแล้วจากความบาปทั้งสิ้น ความรักของพระเจ้าจึงหลั่งไหลเข้ามาในชีวิตของเราโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ เราจึงสามารถมั่นใจในวันพิพากษา ได้
พี่น้อง ความกลัว จะยับยั้งเรา ไม่ให้เราสามารถ รักพี่น้องของเราได้ ไม่กล้าเปิดเผยชีวิต ไม่กล้าที่จะไว้วางใจในความรักของพี่น้อง กลัวถูกปฎิเสธ กลัวถูกการไม่ยอมรับ กลัวเสียหน้า กลัวถูกทรยศ หักหลัง
ความกลัวเหล่านี้ไม่ได้มาจากพระเจ้า
ความกลัว จะยับยั้งเรา ไม่ให้เราสามารถ รักซึ่งกันและกันได้
ดังนั้น เมื่อไม่มีความกลัวในหัวใจของเรา เราจึงสามารถ ดำเนินชีวิตด้วยความรักได้
ระบบของโลกนี้ขับเคลื่อนมนุษย์ด้วยความกลัว ใช้ความกลัวเป็นแรงขับเคลื่อนคนให้ทำในสิ่งที่เขาต้องการ
ในพระเจ้า ไม่มีความกลัวใดๆ วันนี้เรายังมีความกลัว อะไรครับ ที่ยับยั้งเราไว้ จากความรัก ไว้วางใจในพี่น้องของเรา ให้เราทูลบอกกับพระเจ้า ขอรับความรักจากพระเจ้าให้เอ่อล้น ท่วมท้นในหัวใจของเราครับ พี่น้อง จนไม่มีที่ว่างไว้สำหรับความกลัว ให้ความรักของพระเจ้า นำมาซึ่งการเยียวยารักษาบาดแผลทางจิตใจของเราครับ
“ในความรักนั้นไม่มีความกลัว แต่ความรักที่สมบูรณ์นั้นก็ขับไล่ความกลัวออกไปเสีย” อาเมนนะครับ
พระเจ้าทรงเป็นความรัก
ความรัก “ครบบริบูรณ์” ในองค์ตรีเอกานุภาพ
สำแดงออก สามประการ (1) “ความรักที่ครบบริบูรณ์” นี้ เรารับมาจากพระเจ้าก่อน เรารักก็เพราะพระองค์ทรงรักเราก่อน Agapetoi Agapomen และประการที่ (2) ความรัก สำแดงออกใน “การเสียสละ” สำแดงออกเป็นการกระทำ ความรักพระเจ้าไม่ใช่แบบ Passive แต่เป็นแบบ Active เราเห็นอย่างชัดเจน ในการเสียสละของพระเจ้าองค์ตรีเอกานุภาพ ในแผนการไถ่ของพระองค์ที่ไม้กางเขน และประการสุดท้าย (3) ความรัก สำแดงออก “ปราศจากความกลัว” “ในความรักนั้นไม่มีความกลัว แต่ความรักที่สมบูรณ์นั้นก็ขับไล่ความกลัวออกไปเสีย” อาเมนนะครับ
ให้เราร่วมใจกันอธิษฐานครับ
สาธุการพระบิดา ขอบคุณพระองค์สำหรับพระคำของพระเจ้าในเช้า / บ่ายวันนี้ ขอบคุณพระเจ้าสำหรับความรักที่ครบบริบูรณ์ที่ทรงเปิดเผยในพระเจ้าองค์ตรีเอกานุภาพ พระเจ้าพระบิดา พระบุตรและ พระวิญญาณบริสุทธิ์ ขอบคุณสำหรับความรักที่ครบบริบูรณ์ที่ลูกได้รับแล้วผ่านทาง แผนงานความรอดที่สำเร็จแล้วในพระคริสต์และ การทรงสถิตอยู่ในชีวิตของลูกผ่านทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ เพื่อที่ลูกจะสามารถรักพี่น้องได้ เหมือนอย่างที่พระองค์ทรงรักและอดทนในชีวิตของลูก ขอบคุณพระองค์สำหรับ ความรักที่ครบบริบูรณ์ของพระองค์ที่ทรงสำแดงใน ความเสียสละ ที่ทรงสละสิ่งที่มีค่าที่สุดของพระองค์คือ พระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เสด็จมาสิ้นพระชนม์ที่ไม้กางเขนเพื่อลูก เพื่อที่ลูกจะเลียนแบบ ความรักที่เสียสละ กับพี่น้องของลูก ขอบคุณพระองค์ สำหรับความรักที่ครบบริบูรณ์ที่ ขับไล่ความกลัวออกไปสิ้น ที่ลูกจะสามารถดำเนินชีวิตของลูกโดยปราศจากความกลัว มั่นใจในการพิพากษา โดยพึ่งพาความรักของพระคริสต์ผ่านการไถ่ที่ไม้กางเขน เพื่อที่ลูกจะสามารถรักพี่น้อง โดยปราศจากความกลัว ขอรับความรักจากพระเจ้าให้เอ่อล้น ท่วมท้นในหัวใจของเรา จนไม่มีที่ว่างไว้สำหรับความกลัว ขอความรักของพระเจ้า นำมาซึ่งการเยียวยารักษาบาดแผลทางจิตใจของลูก อธิษฐานทั้งสิ้นในพระนามของพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน
Related Media
See more
Related Sermons
See more