Wedding sermon - Mint & Milk

“คำเทศนาพิธีสมรสศักดิ์สิทธิ์น้องมิ้นและน้องมิ้ว”

คริสตจักรไคร้สตเชิช กรุงเทพ

วันเสาร์ที่ 22 มกราคม 2022

เอเฟซัส 5: 22-33

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

Word Count 2,000 ; Time 15 minutes

พระเจ้าสถิตกับท่าน [และสถิตกับท่านด้วย]

ขอบคุณพระเจ้าสำหรับข่าวดี งานมงคล ใน ปี 2022 วันนี้เป็นงานสมรสศักดิ์สิทธิ์ครั้งแรกของปีนี้ และก็พิเศษจริงๆ สำหรับคู่บ่าวสาวที่ได้มีโอกาสรู้จักกันตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาที่คริสตจักรและในกลุ่มสามัคคีธรรมเย็นอากาศ ตั้งแต่กลางปี 2019 น้องมิ้นมาในปี 2020 ผ่านมามากกว่า สองปีเกือบสามปีแล้วครับที่ได้เห็น การเจริญเติบโต ความเป็นผู้ใหญ่ พัฒนาการในความสัมพันธ์ เป็นสิทธิพิเศษที่พระเจ้าได้มอบโอกาสพิเศษในการดูแลชีวิตคู่บ่าวสาวในวันนี้

พี่น้องที่รักในพระคริสต์ครับ การแต่งงานวันนี้นอกจากเป็นพิธีมงคลสมรสแล้ว สำหรับผู้เชื่อยังเป็นพิธีที่ศักดิ์สิทธิ์ด้วยครับ เพราะแตกต่างจากงานแต่งงานทั่วไป พิธีที่พึ่งผ่านไปเมื่อสักครู่นี้ นอกจากครอบครัวของน้องมิ้นและน้องมิ้วแล้ว นอกจากแขกผู้มีเกียรติที่มาเป็นพยานในที่นี่แล้ว คำสัญญา คำปฎิญาณที่คู่บ่าวสาวได้ให้ไว้ต่อกันและกัน แล้ว ยังมี พระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ สถิตอยู่กับพิธีแต่งงานนี้ด้วย เป็นคำปฎิญาณ คำมั่นสัญญาที่คู่บ่าวสาว น้องมิ้นและน้องมิ้ว ได้ให้ไว้ต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงประทับอยู่ที่นี่ ในเวลานี้

ความรักเป็นสิ่งที่งดงาม พระคัมภีร์บอกว่า พระเจ้าทรงเป็นความรัก พระองค์จึงเป็นผู้ที่เป็นเจ้าของความรักที่แท้จริง และทรงเป็นแหล่ง หรือต้นกำเนิด ของความรัก และความรักนี้สะท้อนออกมาในมนุษย์ สิ่งทรงสร้างของพระองค์ พระคัมภีร์บอกว่า สร้างในพระฉายของพระองค์ เราทุกคนจึงต้องการความรัก

“สิ่งหนึ่งที่มีค่ามากในชีวิตของเราคือ การที่เรารู้จัก ที่จะรักผู้อื่น และ รู้ว่าเราเป็นที่รักของใครบางคน”

และขอบคุณพระเจ้าครับ ผมเห็นสิ่งนี้ในชีวิตคู่ของมิ้นและมิ้ว

เราจึงเห็นภาพของความรัก ที่มาจากพระเจ้า สะท้อนในความสัมพันธ์ของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็น ความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูก ความรักของคุณครูที่มีต่อลูกศิษย์ ความรักระหว่างเพื่อน และ เช้าวันนี้ เราเห็นภาพความรักจากพระเจ้า สะท้อนออกมา ในความรักในการแต่งงาน การที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นคนแปลกหน้า ไม่รู้จักกัน แต่บัดนี้

ผ่านพิธีสมรสที่สถาปนาโดยพระเจ้า คนแปลกหน้าสองคนนี้ ได้กลายเป็นคนๆเดียวกัน วันนี้ มิ้นและมิ้ว เป็นคนๆเดียวกันแล้วนะครับ จากคนแปลกหน้าสองคนนี้ ต้องมาใช้ชีวิตร่วมกันตลอดวันคืนในชีวิตของคนทั้งสอง นอนเตียงเดียวกัน ตื่นนอนมาพบหน้ากัน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะไม่กล่าวโทษกันและกันนะครับ เหมือนอย่างอาดัมกล่าวโทษเอวาว่าทำให้ตนล้มลงในความบาป ในปฐมกาล 3 นะครับ เพราะวันนี้ มิ้นและมิ้ว เป็นคนๆเดียวกันแล้วนะครับ

พระคัมภีร์เช้านี้ในข้อที่ 31 “เพราะเหตุนี้เอง ผู้ชายจะละบิดามารดาไปผูกพันอยู่กับภรรยา และเขาทั้งสองจะเป็นเนื้อเดียวกัน”

เป็นพระคัมภีร์ตอนเดียวกันใน ปฐมกาล บทที่สอง เมื่อพระเจ้าทรงเป็นผู้สถาปนาการแต่งงานครั้งแรกในโลกนี้ ระหว่างอาดัมกับเอวา

ความสัมพันธ์ที่ล้ำลึกนี้ “เขาทั้งสองจะเป็นเนื้อเดียวกัน” เป็นสิ่งที่เกินความเข้าใจของเรา

ข้อ 32 “ความล้ำลึกในเรื่องนี้สำคัญ และข้าพเจ้าเข้าใจว่าหมายถึงพระคริสต์และคริสตจักร”

อัครทูตเปาโล บอกว่า ความรักที่ล้ำลึกนี้ เกินกว่าที่จะบรรยายหรืออธิบายให้เข้าใจได้ แต่ให้เป็นภาพสัญลักษณ์ในความล้ำลึกนี้ อัครทูตเปาโล ให้ภาพถึง พระคริสต์ และ คริสตจักร (ประชากรของพระองค์) ความรักของพระเยซู คริสต์ ต่อคริสตจักรที่เปรียบเสมือน เจ้าสาวของพระองค์ เหมือนกับ ความรักระหว่างเจ้าบ่าวและเจ้าสาวที่ผูกพันเป็นเนื้อเดียวกัน เป็นคนๆเดียวกัน

เช้านี้ ในพิธีแต่งงาน เราก็เห็น ภาพสัญลักษณ์เช่นกันครับ ที่เป็นตัวแทนความล้ำลึกนี้ คือ การสวมแหวนแต่งงานให้ต่อกันและกัน ในการปฎิญาณ คำมั่นสัญญา ตัวแทนของความล้ำลึกนี้ “เพราะเหตุนี้เอง ผู้ชายจะละบิดามารดาไปผูกพันอยู่กับภรรยา และเขาทั้งสองจะเป็นเนื้อเดียวกัน”

แหวนเป็นตัวแทนของความรักที่ล้ำลึกนี้ ต่างคนต่างมีคนละวง เป็นสัญลักษณ์ถึง คำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ต่อกันและกันในวันนี้ต่อหน้าพระเจ้าและสักขีพยาน แหวนที่กลมเกลี้ยง ไม่มีจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด ความรักที่ล้ำลึกนี้ต่อกันและกัน สวมอยู่ที่นิ้วนาง ที่เป็นสัญลักษณ์สื่อไปถึงหัวใจของคู่บ่าวสาว

พี่น้องที่รักในพระคริสต์และแขกผู้มีเกียรติครับ ความรักแบบหนุ่มสาว ความรักแบบโรแมนติก ความรักที่นำไปสู่การแต่งงานในวันนี้ อาจจะอยู่กับคู่บ่าวสาวได้ไม่นานครับ ที่เขาเรียกกันว่าเป็นช่วงฮันนีมูน แบบที่สำนวนไทยเรียกว่า น้ำต้มผักก็ว่าหวาน แต่ความรักที่ล้ำลึก แบบที่ พระคริสต์ทรงรักคริสตจักร ครับ ที่จะทำให้ความรักของมิ้นและมิ้วยั่งยืน

พระคริสต์ทรงรักคริสตจักร ผู้ทรงเป็นเจ้าสาวของพระองค์ ด้วยความรักที่ไม่มีเงื่อนไข หรือภาษากรีกในพระคัมภีร์เรียกว่า ความรักแบบอกาเป้ ความรักที่ไม่มีเงื่อนไข หรือ ความรักแบบอกาเป้นี้จะ ช่วยให้มิ้นและมิ้ว รักษา ประคับประคอง ชีวิตคู่ให้อยู่ตลอดไปครับ จนกว่าความตายจะพรากจากกัน

ในชั้นเรียนหลักสูตรชีวิตแต่งงานที่จัดครั้งหนึ่ง มีการสัมภาษณ์สามีภรรยาชาวอังกฤษที่ครองรักกันมาอย่างยาวนานมากกว่า 50 ปี มีคำถามหนึ่ง ผู้สัมภาษณ์ถามตายาย คู่นี้ว่า แต่งงานกันมามากกว่า 50 ปี เคยมีสักครั้งหรือไม่ที่คิดจะหย่าร้างกัน ทั้งคู่ต่างตอบว่าไม่เคยมีความคิดที่จะหย่ากันเลย ในขณะที่ตอบอยู่นั้น สามีก็ตอบกับผู้สัมภาษณ์ว่า ใช่แล้ว ไม่เคยคิดที่จะหย่ากันเลย แต่ก็มีหลายครั้งที่คิดอยากจะฆ่าภรรยาตัวเอง 

พี่น้องที่รักครับ ใช่แล้ว ครับ ความรักที่พระเจ้า และ พระคัมภีร์ในเช้าวันนี้ที่พูดถึง ความรักแบบอากาเป้

ประการที่หนึ่ง คือ ความรักที่ต้องตัดสินใจครับ และหลายต่อหลายครั้งไม่ขึ้นอยู่กับอารมณ์ความรู้สึกของเราในเวลานั้นๆ ไม่ว่าจะขึ้นหรือลงดิ่งเท่าไหร่ก็ตาม ความรักแบบอากาเป้จะช่วยเราครับ ให้เราตัดสินใจเลือกที่จะรักษา ประคับประคองชีวิตคู่ต่อไป และ หาหนทางในการเยียวยาในความสัมพันธ์ในชีวิตคู่ เหมือนอย่างที่พระคริสต์ทรงรักคริสตจักร พระเยซูไม่เคยล้มเลิกที่จะเลิกรักคริสตจักร แม้ว่า คริสตจักรจะไม่น่ารัก ก็ตาม เป็นความรัก ไม่ล้มเลิก ไม่ล้มเหลว การให้อภัย และการเริ่มต้นใหม่ ความรักที่ไม่จดจำความผิด ไม่ขุดเอาเรื่องเก่าๆ บาดแผลในอดีตขึ้นมาเพื่อทำร้ายความรู้สึกของกันและกัน

แม้ในช่วงวิกฤตในชีวิตคู่ ในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นความเจ็บป่วย ปัญหาด้านการเงิน ความเครียด ความกดดัน ความโกรธ หงุดหงิด การเข้าใจผิด ความรักแบบอากาเป้ จะสอนเราให้เรายังคง อดทน และ ไม่ใช้คำพูดที่รุนแรงเพื่อที่จะทำร้ายกันและกัน เพราะสำหรับผู้เชื่อแล้ว เรามีพระเจ้าอยู่ในครอบครัว อยู่ในความสัมพันธ์ระหว่างสามีและภรรยา พระเจ้าผู้ทรงรักเรา แบบอากาเป้เหมือนกัน ผู้ทรงยินดีให้อภัยเราแม้ในความผิดบาปในชีวิตของเรา พระเยซูคริสต์ผู้ทรงสิ้นพระชนม์ที่ไม้กางเขน เพื่อเราจะได้รับการให้อภัย แม้ในขณะที่เราเป็นคนบาปอยู่ พระคริสต์ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อเรา ฉันใดฉันนั้น เมื่อพระเจ้ารักเราอย่างไร เราก็จะสามารถหยิบยื่นความรักที่เราได้รับนี้จากพระเยซู ให้กับสามีหรือภรรยาของเราได้เช่นกัน อยากให้มิ้นกับมิ้ว จับมือกันไว้ และบอกอาเมน นะครับ อาเมนนะครับ ความรักอากาเป้ ความรักที่ต้องตัดสินใจ ครับ ไม่ขึ้นกับอารมณ์ความรู้สึก

ประการที่สอง ความรักแบบอากาเป้ ต้องสำแดงออกมาเป็นการกระทำ ระหว่างสามีภรรยานะครับ ไม่ใช่หลักการสวยหรูที่จับต้องไม่ได้ พบในข้อที่ 22

สำหรับ ภรรยา พระเจ้าพูดกับภรรยานะครับ ว่า “ส่วนภรรยาจงยอมเชื่อฟังสามีของตน เหมือนยอมเชื่อฟังองค์พระผู้เป็นเจ้า” และสำหรับสามีครับ

“สามีจงรักภรรยาของตน เหมือนพระคริสต์ทรงรักคริสตจักร”

ในข้อนี้ เป็นพระเจ้านะครับ ที่พูดกับ ภรรยา และกับสามี ไม่ใช่เป็นเหตุที่สามี เรียกร้องจากภรรยา หรือ ภรรยาต้องเรียกร้องจากสามีนะครับ แต่เป็นพระเจ้าครับ ที่ตรัสหรือพูดกับ เราแต่ละคน ที่เป็นสามีและภรรยา ครับ

น้องมิ้วครับ เราสำแดงความรักให้กับสามีของเรา น้องมิ้น ด้วย การเชื่อฟังสามีครับ แน่นอนนะครับ เชื่อฟัง ในสิ่งที่ถูกต้องตามพระคัมภีร์ครับ เพราะสามีเป็นศรีษะของภรรยา เหมือนอย่างที่พระคริสต์ทรงเป็นศรีษะคริสตจักรครับ ภรรยาที่ฉลาดจะรู้จักยกย่อง ให้เกียรติ และเชื่อฟังสามีครับ โดยเฉพาะในที่ชุมชนนะครับ แน่นอน ครับ ภรรยา เราสามารถ มีอิทธิพล ในการตัดสินของเขาได้ครับ พูดคุยกันส่วนตัว แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่อยู่กับคนอื่น เราต้องให้เกียรติสามีของเราครับ

น้องมิ้นครับ เราสำแดงความรักให้กับภรรยาของเรา น้องมิ้ว ด้วย รักภรรยาของเราเหมือนอย่างที่เรารักตัวเราเองครับ ในข้อ 28 -29 “สามีต้องรักภรรยาของตัวเองเหมือนรักร่างกายของตัวเอง เพราะว่าไม่มีใครเกลียดชังกายของตนเอง มีแต่เลี้ยงดูและทะนุถนอม เหมือนที่พระคริสต์ทรงทำแก่คริสตจักร”

นอกจากต้องรักภรรยาเหมือนรักตัวเองแล้วนะครับ ความรักของสามีต่อภรรยา สามียังมีหน้าที่ อีกนะครับ สามีมีความรับผิดชอบสูงมากครับ ในครอบครัว พระเจ้าคาดหวังและมอบหมายหน้าที่ให้กับสามีครับ ภรรยาแค่เชื่อฟังนะ ในข้อ 26-27 “ชำระคริสตจักรให้บริสุทธิ์ เพื่อที่คริสตจักร (หรือ เจ้าสาว) จะมีศักดิ์ศรี ไม่มีด่างพร้อย ริ้วรอย หรือมลทินใดๆเลย แต่บริสุทธิ์ปราศจากตำหนิ”

มิ้นครับ หน้าที่ที่สำคัญในครอบครัวคือ สามีเปรียบเหมือนพระคริสต์ครับ คือเป็นปุโรหิตในครอบครัวครับ มีหน้าที่ในการพาภรรยาและ ลูกๆ สมาชิกในครอบครัวให้นมัสการพระเจ้า รับผิดชอบชีวิตของทุกคนในครอบครัวให้เดินในทางพระเจ้า ที่บ้าน พาภรรยา ลูกๆ มาอธิษฐาน เฝ้าเดี่ยว อ่านพระคัมภีร์ พาสมาชิกในบ้าน ภรรยามานมัสการพระเจ้าในวันอาทิตย์ที่คริสตจักร และเข้ากลุ่มสามัคคีธรรมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อที่เราในฐานะปุโรหิตของพระเจ้า ตัวแทน พระคริสต์ในครอบครัว จะชำระครอบครัวที่พระเจ้ามอบหมายให้เราดูแลบริสุทธิ์ มีศักดิ์ศรี ไม่มีด่างพร้อย ริ้วรอย หรือมลทินใดๆเลย แต่บริสุทธิ์ปราศจากตำหนิ

ในวันสุดท้าย เมื่อมิ้นต้องกล่าวรายงานต่อหน้าพระเจ้า พระเจ้าจะถามมิ้นว่า สัตย์ซื่อในการทำหน้าที่ปุโรหิตในครอบครัวที่พระเจ้ามอบหมายเพียงใด

ความรักแบบอากาเป้ สะท้อนออกมาเป็นการกระทำ ระหว่างสามีภรรยานะครับ

สำหรับ ภรรยา “ส่วนภรรยาจงยอมเชื่อฟังสามีของตน เหมือนยอมเชื่อฟังองค์พระผู้เป็นเจ้า” และสำหรับสามีครับ

“สามีจงรักภรรยาของตน เหมือนพระคริสต์ทรงรักคริสตจักร”

ทั้งสองอย่างนี้เป็น พระเจ้านะครับ ที่พูดกับ ภรรยาและสามี ไม่ใช่เป็นสิ่งที่เป็นเงื่อนไข ที่ภรรยาเรียกร้องจากสามี หรือ เป็นเงื่อนไขที่ สามีเรียกร้องจากภรรยา เพราะ ทั้งสามีและ ภรรยา ต่างพร้อมใจกันสำแดงความรักแบบอากาเป้ หรือ ความรักที่ไม่มีเงื่อนไขนี้ ต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าครับ  ขอบคุณพระเจ้า

ให้เราร่วมใจกันอธิษฐานครับ ก้มศรีษะ หลับตา และอธิษฐานขอพระเจ้าอวยพระพรให้กับมิ้นและมิ้วร่วมกันครับ

พระเจ้าพระบิดา พวกเราที่นี่ เวลานี้ มาร่วมใจกันอธิษฐานขอพระพร การอวยพรจากพระองค์กับครอบครัวใหม่นี้ มิ้นและ มิ้ว ให้ความรักระหว่างเขาทั้งสองคนจะเป็นความรักนิรันดร์ เหมือนอย่างที่พระเยซูคริสต์ทรงรักคริสตจักรของพระองค์ ทั้งยามมั่งมี หรือยากจน เจ็บป่วย หรือสุขสบาย

ขอพระองค์ทรงประทานกำลังในเวลาที่ทั้งสองคนต้องเผชิญกับความยากลำบาก

ขอพระองค์ทรงประทานแสงสว่างในเวลาที่ทั้งสองคนต้องเผชิญกับอุปสรรคปัญหา

ขอพระองค์ทรงประทานพระคุณ ในเวลาที่ทั้งสองคนต้องเผชิญกับความล้มเหลว

ขอพระองค์ทรงประทานความหวัง ในเวลาที่ทั้งสองคนต้องเผชิญกับความทุกข์ใจ

ขอพระองค์ทรงอำนวยพระพรให้กับครอบครัวใหม่นี้ มิ้นและมิ้ว ให้เต็มไปด้วย ความรัก ความชื่นชมยินดี สันติสุข ที่พบในองค์พระเยซูคริสต์ ขอความรักของพระเจ้า ความรักแบบอากาเป้เป็นจริงในชีวิตของเขาทั้งสองคน เพื่อที่ครอบครัวนี้จะเป็นความสว่าง และเป็นประจักษ์พยานถึงความดี ความประเสริฐ และความรักของพระเจ้า อธิษฐานผ่านทางพระเยซูคริสต์ พระบุตรของพระเจ้า ผู้ทรงปกครองร่วมกับพระบิดา และพระวิญญาณบริสุทธิ์ เป็นพระเจ้าองค์เดียว และตลอดไปเป็นนิตย์ อาเมน