ประทานถ้อยคำที่ค้ำชู

Lent  •  Sermon  •  Submitted   •  53:44
0 ratings
· 43 views
Files
Notes
Transcript
Sermon Tone Analysis
A
D
F
J
S
Emotion
A
C
T
Language
O
C
E
A
E
Social
View more →
“ประทานถ้อยคำที่ค้ำชู”
คริสตจักรไคร้สตเชิช กรุงเทพ/ แองลิกันลาดกระบัง
วันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน 2022
อิสยาห์ 50:4-9 / ลูกา 19:28-40
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Word Count 5,000 ; Time 50 minutes
พระเจ้าสถิตกับท่าน [และสถิตกับท่านด้วย]
วันอาทิตย์นี้เป็นวันอาทิตย์ใบตาล เริ่มต้นตั้งแต่ศตวรรษที่สี่ ผู้เชื่อในเยรูซาเล็มจะจัดพิธีขบวนใบตาลเดินเข้าสู่เยรูซาเล็ม ในวันอาทิตย์สุดท้ายของเทศกาลมหาพรต เข้ามาระลึกถึง พระเยซูทรงประทับบนหลังลาเสด็จเข้าสู่เยรูซาเล็มด้วยชัยชนะ ที่เราได้รับฟังไปวันนี้ ในลูกา 19 ตามตารางอ่านพระคัมภีร์ Lectionary ปีนี้ ประชาชนต่างโห่ร้องต้อนรับพระองค์ “โฮซันา โฮซันนา” มีความหมายว่า ช่วยเราให้รอดด้วยเถิด! มีการปูทางรับเสด็จด้วยเสื้อคลุมของพวกเขา และใบตาล ในขณะที่มีการโบกใบจากต้นปาล์ม หรือที่เราเรียกว่าใบตาล ใบของต้นปาล์มในปาเลสไตน์เป็นสัญลักษณ์ของ ชัยชนะ กษัตริย์ การเฉลิมฉลอง พระเยซูเสด็จเข้าเยรูซาเล็มอย่างกษัตริย์ พระเมสสิยาห์ตามคำพยากรณ์ในเศคาริยาห์ 9
วันอาทิตย์ใบตาล มีอีกชื่อหนึ่ง วันอาทิตย์แห่งการทนทุกข์
ไม้กางเขนใบตาลนี้ เป็นสัญลักษณ์ของ ชัยชนะ กษัตริย์ การเฉลิมฉลองในชัยชนะ พบในใบตาล และ การทนทุกข์ ความตาย พบที่ไม้กางเขน สองสิ่งที่ย้อนแย้ง ตรงกันข้ามกัน แต่ เป็นความล้ำลึกในความเชื่อของเราซึ่งพบในพระเยซูคริสต์
ที่เรียกว่าเป็น วันอาทิตย์แห่งการทนทุกข์ เพราะว่า เป็นวันอาทิตย์สุดท้ายของเทศกาลมหาพรต และเป็นการเริ่มต้น สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ สัปดาห์สุดท้ายของพระเยซูคริสต์ในเยรูซาเล็มก่อนที่จะถูกตรึงที่ไม้กางเขน
วันพฤหัสบดีศักดิ์สิทธิ์ อาหารมื้อสุดท้าย มื้อปัสกา พระเยซูทรงล้างเท้าสาวก ค่ำคืนที่พระองค์ทรงอธิษฐานด้วยความทุกข์ใจที่สวนเกเสมาเน กับสาวกที่เอาแต่หลับใหลในขณะนั้น พระองค์ถูกทรยศและอายัดโดยยูดาส สาวกของพระองค์เอง บรรดาสาวกต่างพากันทอดทิ้งพระองค์ด้วยความกลัว ไม่รวมถึงเปโตรที่ปฎิเสธว่ารู้จักพระเยซูถึงสามครั้งด้วยความกลัว
วันศุกร์ประเสริฐ พระเยซูทรงทนทุกข์ด้วยการถูกไต่สวนอย่างไม่เป็นธรรม คำให้การของพยานเท็จ รับความอยุติธรรม ถูกโบยตี ถ่มน้ำลาย รับความอับอาย ความเจ็บปวดทั้งร่างกายและจิตใจอารมณ์ และถูกตรึงที่ไม้กางเขนเยี่ยงทาสที่เป็นโจรในคดีอุกฉกรรจ์ พระศพถูกฝังไว้ในอุโมงค์
แล้วเราก็เข้าสู่ วันอาทิตย์อีสเตอร์ พระคริสต์ทรงเป็นขึ้นจากความตายในวันอาทิตย์อีสเตอร์ ประกาศชัยชนะเหนือความบาป และความตาย การเป็นขึ้นจากตายของพระเยซู คือ การรับสภาพกายใหม่ นิรันดร์ ไม่ต้องตายอีกต่อไป
สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ สัปดาห์แห่งการทนทุกข์ ค่ำคืนวันพฤหัสบดี วันศุกร์ วันเสาร์ สามวัน ก่อนวันอาทิตย์อีสเตอร์ พระเยซูมีชัยชนะเหนือความตาย รับสง่าราศีนิรันดร์ร่วมกับพระเจ้าพระบิดา
ทนทุกข์ ตามด้วย ชัยชนะ และสง่าราศีนิรันดร์
พระคริสต์ เข้ามาด้วย เริ่มต้นสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ ด้วย ชัยชนะ วันอาทิตย์ใบตาล แล้วก็ทนทุกข์ ในวันพฤหัสศักดิ์สิทธิ์และวันศุกร์ประเสริฐ และ ชัยชนะนิรันดร์ ในที่สุด ในวันอาทิตย์อีสเตอร์ เราเห็นซีเครนนี้นะครับ
ถ้าเราเป็นผู้เชื่อมาแล้วแล้วปี ผู้เชื่อบางคนอาจไม่เคยมีส่วนร่วมในสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์เลยด้วยซ้ำ มาอีกวันอาทิตย์ก็ มาเฉลิมฉลองวันอาทิตย์อีสเตอร์เลย ขอบคุณพระเจ้า พระเยซูเป็นขึ้นจากความตายแล้ว ยังแม้จะไม่มีโอกาสร่วมระลึกในการทนทุกข์ร่วมกับพระเยซูเลยในสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ วันพฤหัสศักดิ์สิทธิ์และวันศุกร์ประเสริฐ และสำหรับผู้เชื่อที่มีประสบการณ์ในสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ หลายครั้งเราก็มักจะข้ามช่วงทนทุกข์ไปอย่างรวดเร็ว เพราะรู้อยู่แล้วว่า วันอาทิตย์อีสเตอร์ จะมาถึงในอีกไม่กี่วัน ความทุกข์ที่เผชิญ อีกสามวันก็เป็นวันอีสเตอร์แล้ว
ถ้าการทนทุกข์ในชีวิตของเราเป็นแบบวันอาทิตย์อีสเตอร์ก็ดีนะครับ เพราะเรารู้แน่นอนว่า อีกสามวันจะเป็นวันอีสเตอร์ ไม่ต้องทุกข์อีกแล้ว แต่ในชีวิตของเรา ความทุกข์ยากที่เราเผชิญอยู่ อาจจะอยู่กับเรายาวนานกว่านั้น โดยที่เราไม่มีทางรู้เลยว่า วันอาทิตย์อีสเตอร์ในความทุกข์ที่เราเผชิญอยู่จะมาเมื่อไหร่
บางคนเผชิญต่อสู้กับโรคซึมเศร้ามาแล้วหลายปี และกำลังอยู่ในช่วงทนทุกข์อยู่กับโรคซึมเศร้า รับการรักษาอยู่ ไม่รู้ว่าจะออกจากโรคซึมเศร้านี้วันไหน ยังไม่เห็นวันอาทิตย์อีสเตอร์เลย
บางคนกำลังเผชิญกับความทุกข์ ปัญหาในครอบครัว กำลังเผชิญกับการหย่าร้าง ชีวิตคู่กำลังอยู่ที่ปากเหว จะตกมิตกแหล่ อยู่กับความทุกข์นี้มาแล้วหลายปี ยังไม่เห็นวันอาทิตย์อีสเตอร์เลย
บางคนกำลังเผชิญกับความทุกข์ ภาวะหนี้สินล้นพ้นตัว ลงทุนผิดพลาด ติดการพนัน ติดยาเสพติด ใช้จ่ายเงินเกินตัวจากบัตรเครดิต เงินกู้นอกระบบ ทำงานมีเงินเดือนเพื่อใช้แต่หนี้สิน ที่ต้องชดใช้อีกหลายปี
บางคนกำลังเผชิญกับความทุกข์ กับโรคร้ายเรื้อรังที่รักษามาแล้วหลายปี หรือบางคนต้องดูแลสมาชิกในครอบครัวที่เรารักที่กำลังมีภาวะติดเตียง มีปัญหาทางสมอง และพฤติกรรมความรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่าย อดหลับอดนอน ไม่รู้ว่าจะจบลงเมื่อไหร่
บางคนสูญเสียคนที่รักอย่างกะทันหัน ไม่ทันตั้งตัว ต้องอยู่กับฝันร้าย ความสูญเสียไปอีกหลายปี ยังคงหาคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้น หาเหตุผลเพื่อตอบคำถามที่ไม่มีวันจะได้รับคำตอบนั้น
บางคนอาจตกงานมาแล้วหลายปี อยากกลับไปมีงานทำ
บางคนกำลังรับผลจากความผิดพลาดในอดีตที่เราเคยทำ ต้องติดคุกติดตาราง สูญเสียงาน สูญเสียชื่อเสียง สูญเสียครอบครัว ลูกๆ คู่รักของเราไปมีครอบครัวใหม่ในขณะที่เราอยู่ในเรือนจำ เขาไม่รอ เขียนจดหมายมาบอกอีกว่า ไม่ต้องติดต่อกลับมาอีกนะ ไม่อยากมีปัญหากับครอบครัวใหม่
พี่น้องครับ ถ้าความทุกข์ที่เรากำลังเผชิญ เป็นเหมือนกับ วันอาทิตย์อีสเตอร์แบบที่เราเฉลิมฉลอง ในสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ก็ดีสิครับ รู้แน่นอนเลยว่าอีกสามวัน จะมีชัยชนะแล้ว พ้นจากความทุกข์แล้ว
พี่น้องที่รักครับ ผมเชื่อเหลือเกินว่า ไม่มีใครชอบ อยาก และปรารถนา อยู่ในการทนทุกข์หรอกครับ ผมคิดว่าไม่มีสักคน เราต่างต้องการความสุข ชีวิตที่ปราศจากความทุกข์ ชีวิตที่ไม่ต้องมีโรคภัยไข้เจ็บ ชีวิตที่สุขภาพร่างกายแข็งแรงตลอดเวลา ชีวิตครอบครัวที่ครบบริบูรณ์ มีชีวิตแต่งงานที่ราบรื่น มีลูกๆที่เชื่อฟัง มีงานทำที่มั่นคง มีลูกค้า เพื่อนร่วมงาน ลูกน้อง หัวหน้างานที่น่ารัก งานที่ทำแล้วมีความสุข สำหรับคนที่ทำธุรกิจส่วนตัว ก็อยากมีธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ มั่งคั่ง เงินทองร่ำรวย มีชื่อเสียงดี และมีสุขภาพดี ใช่มั้ยครับ
ทุกคนปราถนาที่จะมีชีวิตที่ปราศจากความทุกข์ บางความเชื่อสอนถึงวิธีการให้คนพ้นทุกข์ไปเลย ทำอย่างไรจึงจะพ้นทุกข์ เพราะว่าชีวิตนี้ทุกข์เหลือเกิน เกิดมาก็ทุกข์แล้ว เด็กทารกแรกเกิดก็ร้องไห้ทันที
เราต้องการชีวิตที่ปราศจากความทุกข์ ก็เพราะเรารู้ดีครับ ว่าความทุกข์เป็นสิ่งที่เราต่างต้องเผชิญ และเราแต่ละคนต่างหนีไม่พ้น จะต้องมีประสบการณ์ร่วมอย่างแน่นอน ถ้าวันนี้เรายังไม่เคยมีความทุกข์ใดๆเลย ก็ขอบคุณพระเจ้าครับ แต่ก็ให้เตรียมตัวเตรียมใจไว้นะครับ ความทุกข์จะต้องมาเยี่ยมเยียนเราอย่างแน่นอนไม่วันใดก็วันหนึ่ง และหลายต่อหลายครั้งความทุกข์ก็มาเยี่ยมเราแบบที่เราไม่ทันตั้งตัว
มีนักศาสนศาสตร์ที่มีชื่อเสียงท่านหนึ่งกล่าวว่า
ความจริงแล้วความทุกข์ที่เราเผชิญอยู่นั้น คือความทุกข์ในความทุกข์ที่เราเผชิญ
ผมพูดทวนอีกครั้งนะครับ
ความจริงแล้วความทุกข์ที่เราเผชิญอยู่นั้น คือความทุกข์ในความทุกข์ที่เราเผชิญ
หมายความว่า ความทุกข์ที่เราเผชิญอยู่นั้น คือความรู้สึกทุกข์ใจของเราในความทุกข์ที่เราเผชิญอยู่
เราตีความหมาย เราให้ความหมายของความทุกข์ที่เรากำลังเผชิญอยู่อย่างไร
หมายความว่า เราตีความหมาย เราให้ความหมายของความทุกข์ที่เรากำลังเผชิญอยู่อย่างไร
สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ สอนเราเกี่ยวกับความทุกข์ การทนทุกข์ที่พระคริสต์ต้องเผชิญ
แต่ก่อนที่เราจะรับพระคำพระเจ้า ให้เราร่วมใจกันอธิษฐานครับ
“พระเจ้าผู้ทรงพระคุณ โปรดประทานหัวใจที่ถ่อม ยินดีรับการสอน และใจที่เชื่อฟัง ในขณะที่ลูกรับการเปิดเผยและสำแดงจากพระคำของพระองค์โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ขอทรงประทานกำลังที่ลูกจะสามารถกระทำตามสิ่งที่พระองค์ทรงเปิดเผยและสำแดง ให้เป็นจริงในชีวิตของลูก ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน”
กลับมาที่พระคำพระเจ้าในวันนี้ครับ อิสยาห์ 50 เป็นบทสั้นๆนะครับ มีเพียงแค่ 11 ข้อ พี่น้องมีเวลาลองกลับไปอ่านทั้งบทนะครับ เทศนาวันนี้จากข้อที่ 4-9 ครับ เป็นส่วนที่เรียกกันว่า “บทเพลงของผู้รับใช้พระเจ้าที่ทนทุกข์” ครับ หมายถึงพระเมสสิยาห์ ผู้ทรงเป็นผู้รับใช้พระเจ้าที่ทนทุกข์ครับ พระเยซูคริสต์ในสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์
พระเจ้าตรัสผ่านผู้เผยพระวจนะอิสยาห์ในบทที่ 50 ถึงอิสราเอลที่กำลังทนทุกข์จากการสิ้นชาติ ถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลย เป็นคนต่างด้าวในบาบิโลน สมาชิกในครอบครัวต้องเสียชีวิตจากภัยสงคราม ถ้าจินตนาการไม่ออก ให้นึกถึงภาพข่าว ชาวยูเครนในเวลานี้ที่ต้องอพยพออกจากบ้านเกิดเมืองนอนจากภัยสงคราม ต้องพลัดพรากจากผู้ชายในครอบครัว เพราะถูกเกณฑ์ไปเป็นทหาร ยังไม่รู้ว่าจะเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากการสงครามหรือไม่ อพยพออกไปอยู่ในโปแลนด์และประเทศที่สามในยุโรป นี้คือความทุกข์คล้ายๆกับที่อิสราเอลในเวลานั้นต้องเผชิญ ความสิ้นหวัง หมดหวัง พระวิหารถูกทำลาย เมืองถูกทิ้งร้าง กลายเป็นซากปรักหักพัก ความทุกข์ทั้งหมดนี้ เกิดจากความบาปของยูดาห์ พวกเขาเอง ที่นำเขาออกจากพระพรของพระยาห์เวห์ และต้องตกเป็นเชลยในที่สุด เหมือนอย่างที่พระยาห์เวห์ตรัสไว้ในข้อที่ 1-3
พี่น้องครับ ส่วนใหญ่แล้วปัญหา ความทุกข์ที่เราเผชิญส่วนตัวของผมแล้ว ผมคิดว่ามากกว่า 95 % ล้วนเกิดจากความผิดพลาดของเราครับ เกิดจากความบาปของเรา ไม่ต้องไปโทษพระเจ้านะครับ เหมือนอย่างอิสราเอลที่โทษพระยาห์เวห์ พระองค์จะตรัสในข้อที่ 1-3 ว่า เหตุร้ายเหล่านี้ล้วนเกิดจากความผิดบาปของพวกเขาเอง ทั้งๆที่พระองค์ส่งผู้เผยพระวจนะของพระองค์ไม่ว่าจะเป็นอิสยาห์ เยเรมีย์ให้กลับใจ แต่เขาก็คอแข็ง ลองจับคอเราดูนะครับ ว่าคอแข็งหรือเปล่า ดื้อดึงไม่เชื่อฟังถ้อยคำพระเจ้า จนนำเหตุร้ายมาสู่พวกเขาในที่สุด
ข้อ 1-3 เป็นคำพูดของพระเจ้าพระบิดา ข้อที่ 4-9 ในคำเทศนาวันนี้ เป็นคำพูดจากพระเมสสิยาห์ผู้ทนทุกข์ ซึ่งโดยพันธสัญญาใหม่ เรารู้ครับ ว่าคือ พระบุตรของพระเจ้า พระเยซูคริสต์ ข้อ 4-9 พระองค์ทรงเปิดเผย กุญแจสำคัญกับ ชนชาติอิสราเอลที่กำลังเผชิญกับความทุกข์เนื่องจากความผิดพลาดของพวกเขา ในความทุกข์ที่พระเมสสิยาห์ต้องเผชิญ แม้ว่าความทุกข์ที่พระองค์ต้องเผชิญไม่ได้เกิดจากความผิดบาปของพระองค์เลย แต่เป็นพระประสงค์พระเจ้าพระบิดา สามประการครับ ที่พระเยซูสอนเรา พระเมสสิยาห์ผู้ทรงทนทุกข์ ในอิสยาห์ 50: 4-9
เผชิญความทุกข์ได้:
(1) พระเจ้าทรงประทานถ้อยคำที่ค้ำชู ข้อ 4-5
“4พระยาห์เวห์องค์เจ้านายประทานแก่ข้าพเจ้า ให้มีลิ้นของผู้ได้รับการสั่งสอน เพื่อข้าพเจ้าจะรู้จักการค้ำชู คือค้ำชูผู้อิดโรยด้วยถ้อยคำ ทุกๆ เช้าพระองค์ทรงปลุก พระองค์ทรงปลุกหูของข้าพเจ้า เพื่อให้ฟังเหมือนอย่างคนได้รับการสั่งสอน 5พระยาห์เวห์องค์เจ้านายทรงเปิดหูข้าพเจ้า และข้าพเจ้าเองไม่ได้ขัดขืน ข้าพเจ้าไม่ได้หันหลังกลับ”
พระเยซูทรงเผชิญกับความทุกข์ ด้วยพระคำจากพระเจ้า เพราะว่าเป็น “ถ้อยคำที่ค้ำชูผู้อิดโรย” ในข้อที่ 4
พระองค์ได้รับถ้อยคำจากพระเจ้า และมีคำพูดของพระองค์ก็มาจากถ้อยคำจากพระเจ้า
ยอห์น 14:10 “...คำซึ่งเรากล่าวกับพวกท่านนั้น เราไม่ได้กล่าวตามใจชอบ แต่พระบิดาผู้สถิตอยู่ในเราทรงทำพระราชกิจของพระองค์”
ข้อ 4 ให้มีลิ้น หรือคำพูดของผู้ที่ได้รับการสั่งสอน ซึ่งหมายถึงสาวก เพื่อที่พระองค์จะทรงตรัสด้วยถ้อยคำจากพระเจ้าเพื่อค้ำชูคนที่อ่อนกำลัง
พี่น้องครับ ในท่ามกลางความทุกข์ยากลำบากที่เรากำลังเผชิญอยู่ เราในฐานะของสาวกของพระเยซูต้องการถ้อยคำจากพระเจ้าเพื่อค้ำชูเราที่อิดโรยครับ และเพื่อที่เราจะเป็นเหมือนกับพระเยซูคือ กล่าวถ้อยคำที่ได้รับจากพระเจ้าเพื่อหนุนใจพี่น้องที่อ่อนกำลังด้วยเช่นกัน
พระคำพระเจ้าเปรียบเหมือน มานาประจำวันในทุกๆเช้า ที่อิสราเอลต้องเดินทางวนเวียนอยู่ในถิ่นทุรกันดาร
รับพระคำพระเจ้าวันต่อวัน เพื่อช่วยให้เรามีกำลังผ่านถิ่นทุรกันดารในชีวิตของเราไปได้วันต่อวัน
ข้อที่ 4 กล่าวต่อไปว่า ทุกๆเช้า พระองค์ทรงปลุกหูของข้าพเจ้า เพื่อให้ฟังเหมือนอย่างคนที่ได้รับการสั่งสอน หรือ สาวก และข้อที่ 5 เปิดหูข้าพเจ้า และข้าพเจ้าเองไม่ได้ขัดขืน ไม่หันหลังกลับ
การฟัง สำหรับคนยิวแล้ว คือ การเชื่อฟัง พระเยซูทรงเชื่อฟังพระเจ้าพระบิดา ไม่ขัดขืน ไม่หันหลังกลับ จนถึงความมรณาที่ไม้กางเขน พระคัมภีร์บันทึกว่า พระเยซูทรงตั้งพระทัยแน่วแน่ เสด็จเข้าเยรูซาเล็ม ทั้งๆที่ทราบอยู่แล้วว่าจะพบกับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสที่นั้น
นี่คือ หัวใจของสาวกครับ เชื่อฟังพระคำพระเจ้า ยอมจ่ายราคา แม้ต้องเสียประโยชน์ และสำหรับพระเยซู การยอมเชื่อฟังพระเจ้าพระบิดา หมายถึง จ่ายราคาความบาปหมดโลกนี้ด้วยการสิ้นพระชนม์ที่ไม้กางเขน ในสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์
สำหรับพระเยซูคริสต์แล้ว พระเยซูเผชิญความทุกข์ที่อยู่ตรงหน้าได้ด้วยสันติสุข เพราะทรงทราบจากถ้อยคำของพระเจ้า มาจากพระเจ้าพระบิดา พี่น้องครับ เราเผชิญความทุกข์ของเรา ด้วยความทุกข์ใจหรือ ด้วยสันติสุขเหมือนอย่างพระเยซูคริสต์ครับ
เราจะสามารถเผชิญกับความทุกข์ได้วันต่อวัน เพราะเรารับพระคำพระเจ้าวันต่อวัน สำหรับคนที่เผชิญกับปัญหา ความทุกข์ที่ดูเหมือนว่าไม่มีวันสิ้นสุด หรือยังไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ เราผ่านไปได้แบบวันต่อวันจริงๆ
แล้วอีกวันหนึ่งก็จะผ่านไป ผ่านไปด้วยความหวังและสันติสุข แม้กำลังทนทุกข์อยู่
พระวจนะคำของพระเจ้าเป็นเหมือนกับ น้ำผึ้งที่หวานล้ำ เป็นมานาประจำวัน เป็นกำลังและสดใหม่ในทุกวัน เพื่อที่เราจะอยู่กับความทุกข์ของเราไปได้อีกหนึ่งวันอย่างมีความหวัง ไม่ใช่ด้วยความรู้สึกทุกข์ใจ เมื่อเราเข้าใจและตีความหมายของความทุกข์ที่เราเผชิญด้วยสติปัญญาจากพระเจ้า เราก็จะไม่รู้สึกทุกข์ แม้ในขณะที่เรากำลังเผชิญความทุกข์
พระเจ้าตรัสกับเราอย่างไรครับ ชีวิตเฝ้าเดี่ยวเราเป็นอย่างไรบ้างครับ เรามีสถานที่แน่นอนมั้ยครับในการฟังเสียงพระเจ้า เราอยู่ลำพังกับพระเจ้าครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ครับ เราได้ยินพระเจ้าตรัสกับเราครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ครับ
พระเยซูทรงเป็นแบบอย่างในชีวิตอธิษฐานภาวนา
มาระโก 1:35 พระเยซูทรงใช้เวลาทุกๆวันตามลำพังกับพระเจ้า
“35ในเวลาเช้ามืดพระองค์ทรงลุกขึ้นเสด็จออกไปยังที่สงบ และทรงอธิษฐานที่นั่น”
พระเจ้าพูดกับเราครับ ผ่านการเฝ้าเดี่ยวในแต่ละวัน ผ่านการอ่านพระคัมภีร์ส่วนตัว
การเฝ้าเดี่ยวในทุกๆวัน เป็นวินัยฝ่ายวิญญาณครับ สำหรับผู้เชื่อ
เราต้องการได้ยินเสียงของพระเจ้าทุกๆวัน เหมือนกับที่เราใช้เวลากับคนที่เรารัก พูดซ้ำๆเสมอเพื่อยืนยันความรักที่มีต่อกันและกัน ลูกๆต้องการได้ยินพ่อ แม่บอกรักเขาในทุกๆวัน
พระเจ้าทรงปรารถนาที่จะใช้เวลากับเรา พัฒนาความสัมพันธ์
วินัยฝ่ายวิญญาณ การเฝ้าเดี่ยว การอ่านพระคัมภีร์ การเข้ากลุ่มเซล กลุ่มแคร์ การนมัสการพระเจ้าในวันอาทิตย์ เป็นรูทีน ที่ช่วยให้เราได้ยินเสียงพระเจ้าชัดขึ้นในชีวิตของเรา ครับ เราจะเติบโต และเป็นผู้ใหญ่ในพระคริสต์
กิจวัตรประจำวัน รูทีน เป็นสิ่งสำคัญครับ แม้ดูเป็นว่าเป็นสิ่งเล็กน้อย ผมสามารถทำนายอนาคตของคนๆนั้นได้เลยครับ จากกิจวัตรประจำวันของเขา กิจกรรมใดที่เขาทำเป็นประจำ ใช้เวลาในแต่ละวันไปกับอะไรบ้าง
พระเจ้าพูดกับเราโดยตรงผ่านคำเทศนาทุกๆวันอาทิตย์ แต่เราไม่ได้ยิน เราไม่ฟังนะครับ เพราะใจเราไม่ได้จดจ่ออยู่กับการฟังพระคำพระเจ้า เมื่อใดก็ตามที่เราจดจ่อฟังพระคำพระเจ้า จะเปิดโอกาสให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ทำงานในชีวิตเราครับ พระวิญญาณจะเปิดเผยและสำแดง คำเทศนาเป็นฤทธิ์เดชจากพระเจ้าในการเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้เชื่อครับ
มีเรื่องเล่า คริสตจักรแห่งหนึ่ง ศิษยาภิบาลอาทิตย์นี้เทศนาพระคำจากยอห์น พระเจ้าทรงเป็นความรัก พอผ่านมาอีกอาทิตย์หนึ่ง อาจารย์ท่านนี้ก็บอกที่ประชุมว่า วันนี้เราจะเทศนาจากยอห์น พระเจ้าทรงเป็นความรัก ผ่านอีกสัปดาห์ที่ 3 อาจารย์ก็ขึ้นธรรมมาส เทศนาจากพระคัมภีร์ตอนเดิมจากยอห์น พระเจ้าทรงเป็นความรัก จนในที่สุด สมาชิกท่านหนึ่งก็ทนไม่ไหว พูดกับอาจารย์ว่า อาจารย์สบายดีมั้ย อาจารย์บอกว่าผมสบายดีครับ จากนั้นสมาชิกถามว่า ผมเห็นอาจารย์เทศนาเรื่องเดิมซ้ำมาแล้วสามสัปดาห์ อาจารย์ช่วยเทศนาเรื่องอื่นๆบ้างได้มั้ย อาจารย์ยิ้มและตอบกับสมาชิกท่านนั้นว่า ผมคิดว่าผมจะเทศนาเรื่องนี้จนกว่าสมาชิกในคริสตจักรจะเข้าใจจริงๆว่าพระเจ้าเป็นความรัก ในชีวิตของพวกเขา
พี่น้องครับ เราก็เป็นอย่างนั้นครับ ฟังคำเทศนาวันอาทิตย์ไปงั้นๆ พระเจ้าพูดกับเรา แต่เราไม่ได้ยิน ยิ่งสมัยนี้บางคนเล่นมือถือ เล่นเกมส์ โซเซียลมีเดียระหว่างฟังคำเทศนา ตัวนั่งอยู่แต่ใจไปอยู่ที่อื่น เวลาผมเห็นหรือทราบว่ายังมีสมาชิกที่จดคำเทศนา ผมขอบคุณพระเจ้า พระวจนะพระเจ้าเป็นสิ่งมีค่าที่เราต้องจด ต้องจำอย่างระมัดระวัง พระเจ้าอยากจะพูดกับเรา แต่เราไม่พร้อมที่จะฟังพระเจ้า เราจึงเผชิญความทุกข์ในชีวิตของเราด้วยความทุกข์ใจ ด้วยความขมขื่นใจ เพราะไม่มีถ้อยคำที่ค้ำชูใจเรา คนที่อิดโรย คนที่อ่อนกำลัง
ในกลุ่มเซลทุกๆสัปดาห์ เราจะให้สมาชิกผลัดเปลี่ยนกันแบ่งปัน โดยนำคำเทศนาวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มาทบทวน ไม่ใช่เพื่อเป็นความรู้อย่างเดียว แต่เพื่อที่เราจะมีโอกาสทบทวน ไตร่ตรอง และฟังสิ่งที่พระเจ้ากำลังและพยายามที่จะพูดกับเรา พระปัญญาจากพระเจ้า ลงลึกมากขึ้น สิ่งที่เราจะนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตของเรา พระเจ้ากำลังตรัสและสำแดงอะไรกับเราผ่านคำเทศนา มีสิ่งใดหรือไม่ที่เราต้องกลับใจ เริ่มต้นใหม่ หรือ เปลี่ยนแปลงความคิด ทัศนคติและท่าทีใหม่
สมาชิกที่จดคำเทศนา จดจ่อในการฟัง เรารู้ได้เลยจากการฟังสิ่งที่เขาแบ่งปัน สิ่งที่เขานำไปประยุกต์ใช้ในชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาเผชิญกับความทุกข์ยากลำบากในชีวิต เขาจะเติบโต และเป็นคนที่ใช่การได้
(2) พระเจ้าทรงประทานการช่วยกู้ ข้อ 6-7
“6ข้าพเจ้าเปิดหลังให้ผู้โบยตีข้าพเจ้า และหันแก้มแก่คนดึงเคราข้าพเจ้าออก
ข้าพเจ้าไม่ได้ซ่อนหน้า จากการเยาะเย้ยและการถ่มน้ำลายรด 7แต่พระยาห์เวห์ องค์เจ้านายทรงช่วยข้าพเจ้า เพราะเหตุนี้ ข้าพเจ้าจะไม่ถูกทำให้อัปยศ เพราะเหตุนี้ ข้าพเจ้าจึงทำหน้าข้าพเจ้าให้เหมือนหินเหล็กไฟ และข้าพเจ้าทราบว่าข้าพเจ้าจะไม่อับอาย”
แม้ในขณะที่พระเยซูทนทุกข์ เพราะเหตุแห่งการเชื่อฟัง ข้อที่ 6 ทรงถูกโบยตี ดึงเครา และถ่มน้ำลายรด การดึงเครา และถ่มน้ำลาย เป็นการดูถูกเยียนหยามกับอาชญกรที่เลวร้าย สิ่งที่พระองค์ทรงเผชิญแม้ทรงบริสุทธิ์และปราศจากความผิดใดๆ ข้อที่ 7 แต่พระยาห์เวห์ องค์เจ้านายทรงช่วยข้าพเจ้า ข้าพเจ้าทำหน้าให้ด้านเหมือนหิน แม้ต้องถูกคนถ่มน้ำลายใส่ ดึงเครา ก็จะไม่อับอาย ทำหน้าให้ด้านเหมือนหิน
พระเยซูทรงเผชิญกับความทุกข์เหล่านี้ได้ เพราะทรงมั่นใจว่า พระเจ้าจะทรงช่วยเหลือท่านอย่างแน่นอน ผ่านเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุด เพื่อการไถ่จะเกิดขึ้น พระเจ้าพระบิดาทรงทำให้พระเยซูทรงเป็นขึ้นจากความตายในวันอาทิตย์อีสเตอร์ ไม่ว่าช่วงเวลาทนทุกข์จะยาวนาน สักเพียงใดก็ตาม วันอาทิตย์อีสเตอร์จะมาในที่สุด
อิสราเอล ในช่วงเวลาที่ต้องทนทุกข์ตกเป็นเชลยในบาบิโลน พวกเขาต้องอยู่ที่นั้น 70 ปี ตามคำพยากรณ์จนกว่าคนรุ่นที่สอง รุ่นที่สามจะทยอยเดินทางกลับมาที่เยรูซาเล็ม พี่น้องที่รักครับ เราเผชิญความทุกข์เราในปัจจุบันได้ ด้วยความหวังครับ ว่าจะมีวันอาทิตย์อีสเตอร์แน่นอนในปัญหาที่เราเผชิญ
สดุดี 54 ดาวิดเผชิญช่วงที่ตกต่ำที่สุดในชีวิตของท่านครั้งหนึ่ง ต้องหนีเอาชีวิตรอดจากกษัตริย์ซาอูล ซาอูลจะเอาชีวิตดาวิดให้ได้ เพราะคิดว่าดาวิด เป็นภัยคุกคามบังลักท์ของท่าน ดาวิดต้องระหกระเหินเร่ร่อนไปในถิ่นทุรกันดาร อยู่บ้านสบายๆไม่ได้นะครับ ต้องกลายเป็นคนเร่ร่อน ต้องแกล้งเป็นบ้าในดินแดนฟีลีปเตีย ครอบครัวก็เดือดร้อน พ่อแม่พี่น้องที่บ้านก็เดือดร้อน ต้องอพยพหนีด้วย ใครที่เคยให้ความช่วยเหลือดาวิด กษัตริย์ซาอูลไม่ไว้ชีวิตเลย
“1ข้าแต่พระเจ้า โดยพระนามของพระองค์ ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้รอด
และโดยพระอานุภาพของพระองค์ ขอประทานความเป็นธรรมแก่ข้าพระองค์
2ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงฟังคำอธิษฐานของข้าพระองค์
ขอเงี่ยพระกรรณฟังถ้อยคำจากปากของข้าพระองค์
3เพราะคนแปลกหน้าได้ลุกขึ้นสู้ข้าพระองค์
คนไร้ความปรานีมุ่งเอาชีวิตข้าพระองค์
พวกเขาไม่เห็นพระเจ้าอยู่ในสายตา เส-ลาห์
4ดูเถิด พระเจ้าทรงเป็นผู้อุปถัมภ์ข้าพเจ้า
องค์เจ้านายทรงอยู่กับบรรดาผู้ค้ำจุนชีวิตของข้าพเจ้า
5ขอให้ความชั่วร้ายย้อนกลับไปสนองพวกศัตรูของข้าพเจ้า
ขอทรงทำลายเขาโดยความซื่อสัตย์ของพระองค์
6ข้าพระองค์จะถวายสัตวบูชาแด่พระองค์ด้วยความสมัครใจ
ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพระองค์จะยกย่องพระนามของพระองค์ เพราะพระนามนั้นประเสริฐ
7เพราะพระองค์ทรงช่วยกู้ข้าพระองค์ให้พ้นจากความทุกข์ยากทั้งสิ้น
และดวงตาของข้าพระองค์มองเห็นพวกศัตรูแพ้”
พี่น้องที่รักครับ ท่ามกลางความทุกข์ ปัญหา หรือวิกฤติการณ์ในชีวิตที่เรากำลังเผชิญ อาจจะหนักเหมือนที่ดาวิดเผชิญอยู่ หรืออาจเบากว่าความทุกข์ที่ดาวิดเผชิญ ขอให้เรามั่นใจในการช่วยกู้จากพระเจ้า เหมือนอย่างกษัตริย์ดาวิด ท่านประพันธ์บทเพลงสดุดี 54 นี้จากประสบการณ์จริงในชีวิตของท่าน พระเจ้าทรงช่วยกู้ท่านไว้ จากมือของกษัตริย์ซาอูล
เราเผชิญความทุกข์ได้ เพราะเรามีความหวัง ในการช่วยกู้จากพระเจ้า
พระเจ้าจะทรงช่วยกู้เราครับ
สองข้อแล้วนะครับ เผชิญความทุกข์ ได้ ด้วยพระคำพระเจ้าที่ตรัสกับเรา ถ้อยคำที่ค้ำชู และ ความหวังในการช่วยกู้จากพระเจ้า
(3) พระเจ้าทรงประทาน การทรงสถิต พระเจ้าสถิตอยู่ด้วย ข้อ 8-9
“8พระองค์ผู้ทรงแก้ต่างให้ข้าพเจ้านั้นอยู่ใกล้ ใครจะสู้ความกับข้าพเจ้า ก็ให้เรายืนขึ้นมาด้วยกัน และใครจะกล่าวหาข้าพเจ้า ก็ให้เขาเข้ามาใกล้ข้าพเจ้า”
พี่น้องครับ เรามีพระวิญญาณบริสุทธิ์สถิตอยู่ในเราทุกๆคนครับ เราจึงไม่ได้เผชิญกับความทุกข์ตามลำพัง แต่พระเจ้าทรงอยู่กับเราด้วยท่ามกลางความทุกข์ เราจึงแตกต่างจากคนที่ไม่มีพระเจ้า แม้ต้องเผชิญความทุกข์อย่างเดียวกัน พระเจ้าทรงสถิตอยู่กับเรา กา
ในยอห์น 8 พระเยซูทรงอยู่กับ หญิงที่ถูกกล่าวหาว่าล่วงประเวณี และต้องถูกหินขว้างให้ตาย พระเยซูอยู่กับนางและทรงแก้ต่างให้กับนาง พระองค์ตรัสว่า “ใครในพวกท่านไม่มีบาป ให้เอาหินขว้างนางก่อนเป็นคนแรก” จากนั้นคนต่างๆก็ทยอยเดินจากไป
พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงทูลขอเพื่อเรา ทรงแก้ต่างให้กับเรา และทรงเป็นพยานว่าเราเป็นลูกที่รักของพระเจ้า
“9นี่แน่ะ พระยาห์เวห์ องค์เจ้านายทรงช่วยข้าพเจ้า ใครจะกล่าวว่าข้าพเจ้ามีความผิด? ดูสิ พวกเขาทุกคนจะหลุดลุ่ยไปเหมือนเสื้อผ้า ตัวแมลงจะกัดกินพวกเขาเสีย”
ขอบคุณพระเจ้าสำหรับ พระเยซูคริสต์ผู้ทรงสถิตอยู่กับเราผ่านทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ ผู้ทรงเป็นพยานว่าเราได้รับการไถ่จากความผิดบาปทั้งสิ้นในพระคริสต์
พี่น้องที่รักครับ วันอาทิตย์ใบตาล เราเข้ามาโบกไม้กางเขนใบตาล แต่ในวันสุดท้ายเราจะร่วมกันอีกครั้งต่อหน้าพระเยซู องค์จอมกษัตริย์ของเราด้วยใบตาลในมือของเรา
วิวรณ์ 7:9-11
“9หลังจากนั้นมา ข้าพเจ้าเห็น และนี่แน่ะ มหาชนที่ไม่มีใครนับจำนวนได้ ที่มาจากทุกประชาชาติ ทุกเผ่า ทุกชนชาติและทุกภาษา ยืนอยู่หน้าพระที่นั่งและเฉพาะพระพักตร์พระเมษโปดก พวกเขาสวมเสื้อผ้าสีขาว และถือใบตาลอยู่ในมือ 10พวกเขาร้องเสียงดังว่า
“ความรอดขึ้นอยู่กับพระเจ้าของเราผู้ประทับบนพระที่นั่ง
และขึ้นอยู่กับพระเมษโปดก”
วันอาทิตย์ใบตาล เราระลึกถึง ชัยชนะ และการทนทุกข์ของพระคริสต์
พี่น้องครับ เราหลีกหนีความทุกข์ในชีวิตบนโลกนี้ไม่ได้นะครับ พระเยซูตรัสกับสาวกในห้องชั้นบน ในยอห์น 16:33 “เราบอกเรื่องนี้กับพวกท่านเพื่อท่านจะมีสันติสุขในเรา ในโลกนี้ท่านจะประสบความทุกข์ยาก แต่จงมีใจกล้าเถิด เพราะว่าเราชนะโลกแล้ว”
พี่น้องที่รักครับ พระเจ้าอนุญาตให้เราอยู่ในช่วงเวลานี้ครับ แผ่นดินของพระเจ้ามาแล้วในพระเยซูคริสต์ และจะมาอย่างครบบริบูรณ์เมื่อพระเยซูเสด็จกลับมาครั้งที่สอง เรากำลังอยู่ในโลกนี้ที่เราหลีกหนีความทุกข์ไม่ได้ พระเยซูบอกความจริงกับสาวกของพระองค์ว่า ในโลกนี้ท่านจะประสบความทุกข์ยาก แต่จงมีใจกล้าหาญเถิด เพราะว่า ในที่สุดวันอาทิตย์อีสเตอร์จะมาครับ เพราะว่าเราชนะโลกนี้แล้ว พระเยซูชนะโลกนี้แล้วในวันอาทิตย์อีสเตอร์แรกเมื่อสองพันกว่าปีที่แล้ว เราสามารถมีชัยชนะเหนือความทุกข์ของเราได้ในวันนี้ ในเวลานี้ เราสามารถมีอีสเตอร์ได้เมื่อใจเรามีสันติสุขท่ามกลางความทุกข์ที่เรากำลังเผชิญ ด้วย ถ้อยคำที่ค้ำชูผู้ที่เหน็ดเหนื่อยอ่อนกำลัง ด้วยการช่วยเหลือจากพระเจ้าและ ที่สำคัญที่สุดครับ พระเจ้าสถิตอยู่กับเราด้วยท่ามกลางปัญหาความทุกข์ที่เราเผชิญ เราไม่ได้เผชิญกับความทุกข์นี้ตามลำพังโดยที่ไม่มีใครเข้าใจ พระเจ้าทรงเข้าใจ และพระเจ้าทรงสถิตอยู่กับพี่น้องครับ อาเมนนะครับ ให้เราร่วมใจกันอธิษฐาน
พี่น้องที่รักครับ วันอาทิตย์อีสเตอร์จะมาถึงแน่นอนครับ วันอาทิตย์หน้านี้แล้ว พระเจ้าอวยพระครับ
Related Media
See more
Related Sermons
See more